top of page

Mongolia

มองโกเลีย

1. อุทยานแห่งชาติ​เทือกเขาอัลไต

​(Altai Tavan Bogd National Park)

อุทยานแห่งชาติเทือกเขาอัลไตตั้ง​อยู่​ทาง​ตะวันตก​ของ​มองโกเลีย​ตาม​แนว​ชายแดน​ประเทศ​รัสเซีย​และ​ประเทศ​จีน​ อุทยาน​แห่ง​นี้​ประกอบ​ด้วย​ยอด​เขา​​สูง​ที่​สุด​ใน​ประเทศ​ถึง​ห้า​ยอด​ ตลอด​จน​ถึง​ธาร​น้ำแข็ง​ ทะเลสาบ​ น้ำตก​สูง​ 10 เมตร​ และ​แหล่ง​โบราณคดี​ ซึ่ง​รวมถึงกลุ่มภาพบนแผ่นหินแห่งเทือกเขาอัลไตในมองโกเลีย (Petroglyphic Complexes of the Mongolian Altai) ที่​ได้​รับ​การ​ขึ้น​ทะเบียน​เป็น​แหล่ง​มรดก​โลก​ของ​ยูเนสโก​

0331.jpg
0332.jpg
0336.jpg

2. ทะเลทรายโกบี (Gobi Desert)

ทะเลทรายโกบีติด 1 ใน 5 ของทะเลทรายที่กว้างใหญ่ที่สุดในโลก ทะเลทรายแห่งนี้ล้อมรอบไปด้วยเทือกเขาอัลไตและทุ่งหญ้าสเตปป์ที่กว้างใหญ่ ซึ่งเคยมีการค้นพบซากฟอสซิลและไข่ไดโนเสาร์ที่ทะเลทรายนี้อีกด้วย ทะเลทรายโกบีแตกต่างจากทะเลทรายทั่วไปตรงที่พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นทุ่งหญ้าที่ราบกว้าง อุดมไปด้วยพืชพันธุ์ต่าง ๆ สัตว์จำนวนมากจึงมาอาศัยอยู่ในบริเวณนี้ สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของโกบีคือ “Khongoryn Els” ที่ถูกขนานนามว่าเป็นดินแดนแห่งเนินทรายที่สวยงามและใหญ่ที่สุดของโกบี เพราะมีพื้นที่ครอบคลุมอาณาบริเวณยาวกว่า 150 กิโลเมตร และกว้างกว่า 12 กิโลเมตร เนินทรายบางจุดสูงถึง 800 เมตร ทำให้ที่นี่มีกิจกรรมมากมายสำหรับนักท่องเที่ยวให้ได้ทำ โดยกิจกรรมยอดนิยมคือการปีนเนินทรายเพื่อขึ้นไปชมทิวทัศน์ของทะเลทรายแห่งนี้ และอีกหนึ่งกิจกรรมคือการขี่อูฐผจญภัยในทะเลทรายนั่นเอง ใครที่อยากถ่ายรูปกับอูฐและทะเลทรายกว้างใหญ่ก็ต้องห้ามพลาดที่นี่ กิจกรรมยามค่ำคืนในทะเลทรายโกบีที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบกันมาก ๆ ก็คือการนอนดูดาวและทางช้างเผือก เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ที่งดงามไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืน คุ้มค่าแก่การมาเยี่ยมชมจริง ๆ

3. อารามกันดาน (Gandan Monastery)

อารามกันดานเป็นหนึ่งในวัดทางพุทธศาสนาที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของมองโกเลีย และเป็นศูนย์รวมจิตใจที่สำคัญของชาวมองโกเลีย ที่นี่มีกิจกรรมทางศาสนาต่าง ๆ ที่คล้ายคลึงกับวัดในประเทศไทย สามารถชมความงามทางวัฒนธรรมของมองโกเลียได้เต็ม ๆ จากที่นี่ เพราะภายในบริเวณรอบ ๆ วัดมีพระพุทธรูปจำนวนกว่าพันองค์ให้ได้ชม ภายในวิหารใหญ่ยังมีพระพุทธรูปพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ที่สูงถึง 26.5 เมตร ให้เราได้ไปกราบไหว้ ซึ่งถือว่าเป็นพระพุทธรูปยืนในร่มที่สูงที่สุดในโลกอีกด้วย

0333.jpg
0334.jpg

4. พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ

(Natural History Museum)

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ (Natural History Museum) ตั้งอยู่ไม่ไกลจากจัตุรัสเจงกิสข่าน เป็นสถานที่ที่เพื่อน ๆ สามารถมาเรียนรู้ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของมองโกเลียทั้งด้านพืชพันธุ์ธรรมชาติ สัตว์ชนิดต่าง ๆ รวมถึงสภาพภูมิประเทศอย่างธรณีวิทยา ถือเป็นการมาเที่ยวที่ทำให้ได้รู้จักประเทศมองโกเลีย เข้าใจผู้คน และเข้าถึงสิ่งต่าง ๆ ได้มากยิ่งขึ้น ไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้ของที่นี่ก็คือซากไดโนเสาร์และงาของช้างแมมมอธที่ยังคงมีสภาพสมบูรณ์มากนั่นเอง

5. เมืองเก่าคาราโคลัม (Karakorum)

พื้นที่ของเมืองเก่าแห่งนี้เคยเป็นเมืองหลวงในยุคของอาณาจักรมองโกลหรือในยุคของเจงกิสข่าน ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1220 ในหุบเขา Orkhon บริเวณทางแยกของเส้นทางสายไหม ทำหน้าที่เป็นเมืองหลวงอย่างยาวนานมากว่า 40 ปี แล้วล่มสลายไปตามจักรวรรดิมองโกล บ้านเรือนต่าง ๆ ได้ถูกทำลายไปบางส่วน แต่ยังคงหลงเหลือไว้ให้ได้ชื่นชมความงดงามของศิลปวัฒนธรรมในยุคที่มองโกลกำลังรุ่งเรือง โดยเฉพาะพระอาราม Erdene zuu ที่มีกำแพงอันโดดเด่น ยาวประมาณ 400 เมตร กับเจดีย์อีกกว่า 108 เจดีย์ ที่ล้อมรอบพระอารามแห่งนี้ เป็นความสวยงามที่พาย้อนให้เราเข้าสู่ยุคเจงกิสข่านได้ดีที่สุด

0335.jpg
bottom of page