top of page

Bhutan

ภูฏาน

0021.jpg

1. วัดถ้ำเสือ หรือ วัดทักซัง

การทัวร์ภูฏานจะไม่สำเสร็จลุล่วงเลยหากไม่ได้ทำการเยือนวัดทักซัง วัดที่อาจจะได้เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในอนาคต วัดทักซังถูกสร้างไว้หน้าปากถ้ำ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นสถานที่บำเพ็ญภาวนาของท่านกูรูรินโปเช ลามะผู้ซึ่งเข้ามาเผยแผ่ศาสนาพุทธในประเทศภูฏาน นักท่องเที่ยวต้องใช้เวลาเกือบทั้งวันในการขึ้นไปชมความสวยงามของวัด ซึ่งไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ การขึ้นวัดสามารถทำได้สองวิธีคือการเดินขึ้นด้วยเท้าหรือนั่งม้าขึ้นไป อย่างไรก็ดีหากเดินขึ้นไปวัดได้สำเร็จท่านก็จะได้รับผลบุญอย่างแรงกล้า แต่หากท่านขี่ม้าขึ้นไป แน่นอนบุญที่ท่านได้ก็ต้องแบ่งให้กับม้าที่ท่านขี่ขึ้นไปด้วย นี่คือความเชื่อของคนที่นี่

0022.jpg

2. พาโรซอง หรือ ป้อมปราการพาโร

ซองที่ถือว่ามีความสวยงามและแข็งแกร่งที่สุดในภูฏาน ซองนี้ถูกสร้างขึ้นโดยจุดประสงค์แรกในการป้องกันข้าศึกที่เข้ามาจากทิเบต ดังนั้นตัวอาคารจึงออกแบบให้มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยม สูง และมีลักษณะทึบ จะมีเพียงรูเล็ก ๆ เพื่อใช้ในการยิงธนูไปสู้ข้าศึก ปัจจุบันพาโรซองใช้เป็นสถานที่ราชการและวัดเช่นเดียวกับซองอื่น ๆ ในภูฏาน หากแต่ความสวยงามของซองเป็นที่ดึงดูดความสนใจแก่คนทำหนังฮอลลีวูด ลองชมหนังเรื่อง Little Buddha ดู แล้วคุณจะเห็นความสวยงามของสะพานยามิซัม ที่ใช้ข้ามไปยังพาโรซอง

0023.jpg

3. วัดคิชูลาคัง

วัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในเมืองพาโร คำว่าเก่าแก่อาจจะใช้กับวัดนี้ไม่ได้เนื่องจากวัดนี้มีอายุประมาณ 1300 ปี แต่ยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ในตำนาน วัดนี้เป็น 1 ใน 108 วัดที่ถูกสร้างขึ้นในเขตเทือกเขาหิมาลัยเพื่อตรึงยักษ์ที่จะมาทำลายพุทธศาสนา ภายในวัดยังมีต้นส้มที่ออกผลทั้งปี และแน่นอนที่สุดหลายท่านไปวัดนี้เพื่อไปนั่งใต้ต้นส้ม หวังเพื่อให้ผลมันตกลงบนหัว ซึ่งเชื่อกันว่าจะเป็นการนำโชคลาภมาให้ตัวเอง แต่ห้ามเขย่าต้น

0024.jpg

4. พูนาคาซอง หรือ ป้อมปราการพูนาคา

ตั้งอยู่ในเมืองพูนาคาระหว่างแม่น้ำโพ (พ่อ) และ แม่น้ำโม (แม่) พูนาคาเคยเป็นเมืองหลวงเก่าของภูฏาน    ป้อมปราการนี้จึงมีความสำคัญและสวยงามติดอันดับต้น ๆ ของประเทศ สถานที่นี้ยังใช้จัดพระราชพิธีต่าง ๆ ของราชวงศ์รวมไปถึงพระราชพิธีราชาพิเษกสมรสของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก ที่จัดขึ้นในปี 2554 และหากท่านไปพูนาคาในช่วงฤดูใบไม้ผลิ (ก.พ. – เม.ย.) ต้นศรีตรังที่บานสะพรั่งจะทำให้พูนาคาซองสวยขึ้นมาอีกหลายเท่าเลยทีเดียว

0025.jpg

5. วัดชิมิลาคัง

วัดศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งอยู่บนยอดเนินเขาที่มีลักษณะคล้ายเกาะ จุดที่ตั้งวัดอยู่ห่างจากเมืองพูนาคาไม่ไกล ซึ่งชาวไทยบางคนตั้งใจที่จะไปวัดนี้เพียงเพื่อ “ขอบุตร” ซึ่งหลายต่อหลายท่านก็ได้สมใจตามปรารถนามานักต่อนัก     การขอบุตรเริ่มด้วยการไปหาลามะ (พระชั้นผู้ใหญ่) โดยท่านจะทำการเคาะหัวผู้หญิงที่ต้องการขอบุตรด้วย งาช้างขนาดยาว 10 นิ้ว ต่อด้วย แท่งไม้ และ ศิวลึงค์ ที่แกะสลักมาจากกระดูก หากสำเร็จท่านอาจจะต้องกลับมาที่วัดเพื่อให้ลามะตั้งชื่อเป็นภาษาภูฏานอีกครั้ง ซึ่งโดยส่วนใหญ่เด็กที่เกิดจากการขอบุตรที่วัดนี้จะชื่อ “คุนเล่ห์” ตามชื่อของบุคคลที่นำศิวลึงค์มาจากจากทิเบต

bottom of page