top of page

Canada

แคนาดา

เมืองมอนทรีออล (Montreal)

เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศแคนาดา เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ของทางฝั่งฝรั่งเศสผสมผสานกับความเป็นอเมริกาเหนือ โดยที่นี่มีทั้งเขตเมืองเก่าและเขตเมืองใหม่ ประชากรของที่นี่พูดภาษาฝรั่งเศส หลายๆร้านที่นี่มีความเป็นฝรั่งเศสสูง เช่น ร้านคาเฟ่ ร้านหนังสือ ล้วนมีกลิ่นอายของฝรั่งเศสทั้งสิ้น มอนทรีออลยังเป็นเมืองแห่งเทศกาล มีเทศกาลจัดขึ้นตลอดปีโดยเฉพาะช่วงฤดูร้อน เทศกาลเหล่านี้เน้นไปที่ดนตรีแจ๊ส ดอกไม้ไฟ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก หากอยากสัมผัสบรรยากาศฝรั่งเศสท่ามกลางอเมริกาเหนือก็ต้องมาที่เมืองมอนทรีออลแห่งนี้เลย ถือเป็นที่เที่ยวแคนาดาที่ต้องห้ามพลาด

เมืองมอนทรีออล.jpg
วิหารนอร์ธเทอดาม.jpg

ดัฟเฟริน เทอร์เรซ (Dufferin Terrace)

อีกหนึ่งที่เที่ยวแคนาดาที่วิวทิวทัศน์สวยงามและต้องห้ามพลาด คือ ดัฟเฟริน เทอร์เรซ อยู่ในเมือง เมืองควิเบก เป็นทางเดินริมแม่น้ำ ถือเป็นจุดชมวิวหรือจุดที่มีทัศนียภาพที่สวยที่สุดในเมืองควิเบก สามารถเดินชมเมืองเก่า โดยมีวิวสวยๆ ของแม่น้ำเซนต์ลอว์เรนซ์ มีสวนสาธารณะที่ผู้คนต่างออกมาเดินเล่น ทำกิจกรรม นั่งพักผ่อน เรียกได้ว่า เป็นที่เที่ยวที่ทั้งชิลและสวยงามเลยทีเดียว

วิหารนอร์ธเทอดาม (Notre Dame Basilica of Montreal)

มาเที่ยวเมืองมอนทรีออลแล้วก็ต้องแวะไปชมวิหารนอร์ธเทอดาม วิหารเก่าแก่และยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองนี้ เป็นศิลปะแบบนีโอคลาสสิกและนีโอโกธิก ภายในวิหารประดับด้วยไม้แกะสลัก และกระจกสีสวยงาม เพดานโค้งอันใหญ่โต เรียกได้ว่า ยิ่งใหญ่สวยงามอลังการ ทำให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองมอนทรีออล

ดัฟเฟริน เทอร์เรซ.jpg
จัตุรัสปลาส รอยาล.jpg

จัตุรัสปลาส รอยาล (Place Royale)

ที่นี่เคยเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของเมืองควิเบก เป็นศูนย์กลางในการทำธุรกิจมากว่า 200 ปี เป็นพลาซ่าขนาดเล็กที่มีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยประวัติศาสตร์ที่มีมายาวนาน เมื่อก่อนที่นี่ใช้เป็นสถานที่ในการประหารอาชญากรอีกด้วย จัตุรัสแห่งนี้ถึงแม้จะเก่าแก่ แต่สวยงามทุกจุด สายถ่ายรูปจะต้องห้ามพลาดเลยทีเดียว ส่วนสายซีรีส์เกาหลีจะต้องอยากไปชมที่นี่อย่างแน่นอนเพราะ ที่นี่เป็นหนึ่งในฉากของซีรีส์เรื่อง goblin 

โบสถ์นอทร์ดาม เด วิกตัวร์ (Church Notre-Dame-des-Victoires)

มาเที่ยวที่ควิเบกแล้วก็ต้องมาชมความงามของงานศิลป์ที่ โบสถ์นอทร์ดาม เด วิกตัวร์ เป็นโบสถ์ที่เก่าแก่แห่งหนึ่งในควิเบก ที่โบสถ์แห่งนี้มีลักษณะคล้ายป้อมปราการ ด้านในสวยงามอลังการทั้งการตกแต่งและศิลปะ ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางยอดนิยมที่เที่ยวแคนาดา

โบสถ์นอทร์ดาม เด วิกตัวร์.jpg

ปอตี ช็องแปล็ง (Quartier Petit-Champlain)

แหล่งขายของและผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น รวมถึงอาหาร ที่อยู่ในย่านเมืองเก่าคงกลิ่นอายของเมืองฝรั่งเศสเอาไว้ ตัวอาคารเป็นอาคารหินเก่ามีตรอกซอยเล็กๆให้ได้เดินชม เรียกได้ว่า ที่นี่จะได้สัมผัสบรรยากาศของเมืองเก่าอย่างแท้จริง

ปอตี ช็องแปล็ง.jpg
อาคารรัฐสภาแห่งควิเบก.jpg

อาคารรัฐสภาแห่งควิเบก (Parliament Hill of Quebec)

เป็นอาคารแปดชั้นและเป็นที่ตั้งของรัฐสภาแห่งควิเบก เพลิดเพลินไปกับการเดินชมตัวอาคารอันยิ่งใหญ่ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ นอกจากนี้ยังมีสวน และอนุสรณ์ต่างๆให้ได้ชม ที่นี่เป็นอีกหนึ่งจุดที่เป็นจุดเช็คอินยอดนิยมของเหล่านักท่องเที่ยว

Rocky Mountains ที่เที่ยวอันดับต้นๆที่เมื่อพูดถึงแคนาดาต้องนึกถึงที่นี่ เทือกเขาที่มีความสวยงามและยิ่งใหญ่มากที่สุดในประเทศแคนาดา โดยจุดที่สูงที่สุดมีความสูงถึง 14,000 ฟุต โดยจะเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม หุบเขาที่มีทุ่งหญ้า ป่าเขียวขจี ธารน้ำแข็ง สวยงามราวกับภาพวาด ใกล้ๆ Rocky Mountains ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงให้ได้ไปเช็คอินอีกหลายจุด

Rocky Mountains.jpg
เทือกเขาซัลเฟอร์.jpg

เทือกเขาซัลเฟอร์ (Sulphor Mountain)

ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติแบมฟ์ ในเทือกเขา rocky mountain อยู่สูงกว่าระดับน้ําทะเล 2,285 เมตร บนยอดเขาซัลเฟอร์เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่สวยงามมาก และที่นี่ยังเป็นจุดกำเนิดของบ่อน้ำพุร้อนมากมาย โดยการขึ้นไปชมเทือกเขาซัลเฟอร์สามารถขึ้นไปได้ 2 วิธีด้วยกันคือ เดินขึ้นไปด้วยตัวเอง หรือ นั่งกระเช้า Gondola ขึ้นไป หากเป็นสาย adventure แล้วก็อาจจะเปิดประสบการณ์ด้วยการเดินขึ้นไปเพื่อสัมผัสกับธรรมชาติอย่างเต็มที่

 น้ำตกไนแอการา (Niagara Falls)

หนึ่งในที่เที่ยวแคนาดาที่พลาดไม่ได้คือน้ำตกไอแอการา โดยอยู่บนพรมแดนของทั้งแคนาดาและอเมริกา ถึงแม้จะไม่ใช่น้ำตกที่สูงแต่เป็นน้ำตกที่เรียกได้ว่ากว้างมาก จึงถือเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีน้ำตกที่ไหลมารวมกันแยกได้เป็น Horseshoe Falls, American Falls และ Bridal Veil Falls หากมาในช่วงหน้าหนาวที่นี่ก็จะกลายเป็นน้ำแข็ง มีจุดชมวิวที่สวยงาม เป็นหนึ่งในที่เที่ยวที่ควรมาเที่ยวให้ได้สักครั้งในชีวิต

น้ำตกไนแอการา (Niagara Falls).jpg

เมืองวิกตอเรีย (Victoria) เป็นเมืองหลวงของรัฐบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา ตั้งอยู่ทางปลายสุดของเกาะแวนคูเวอร์ เมืองนี้ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่น่าอยู่ เพราะ มีความปลอดภัยสูง ผู้คนใจดี สภาพอากาศอบอุ่น การเดินทางสะดวกสบาย อีกทั้งยังรายล้อมไปด้วยธรรมชาติ ทั้งภูเขา ป่า มหาสมุทร ชายหาด ทะเลสาบ ถึงแม้จะอยู่ท่ามกลางธรรมชาติแต่ความทันสมัยของห้างสรรพสินค้าต่างๆก็มีเยอะไม่แพ้เมืองใหญ่ๆเลย นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวที่นี่ มาชมบรรยากาศของเมือง มาชมสวนดอกไม้ เพราะที่นี่ก็ได้ชื่อว่าเป็น สวนดอกไม้ที่สวยดุจดังสวนสวรรค์ อีกด้วย หากอยากมาเที่ยวแคนาดาแล้ว ที่เที่ยวที่ต้องมีอยู่ในลิสต์ก็ต้องห้ามลืมเมืองวิกตอเรีย

เมืองวิกตอเรีย.jpg
สวนบูชาร์ด.jpg

สวนบูชาร์ด (Butchart Gardens)

ที่เที่ยวแคนาดาที่มีชื่อเสียงอีกที่หนึ่ง ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปคือ สวนบูชาร์ด แห่งเมืองวิกตอเรีย ที่นี่ถือเป็นสวนดอกไม้ที่สวยที่สุดในโลก และมีอายุมากกว่า 100 ปี สวนแห่งนี้อยู่ห่างจากตัวเมืองวิกตอเรีย 21 กิโลเมตร สวนถูกจัดในหลากหลายรูปแบบ ทั้งสวนแบบอังกฤษ สวนแบบญี่ปุ่น สวนแบบชังเค่น ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีของที่ระลึกวางขายให้ได้ซื้อกลับไปอีกด้วย

เมืองเยลโลไนฟ์ (Yellowknife) ประชากรในเมืองเยลโลไนฟ์ส่วนใหญ่มีภาษาพูดถึง 5 ภาษาทั้ง ภาษาชิพิวยัน ภาษาโดกริบ ภาษาสเลวีย์ ภาษาอังกฤษ และภาษาฝรั่งเศส ที่นี่เป็นถือเป็นเมืองสวยอีกเมืองหนึ่งของประเทศแคนาดา โดยที่เที่ยวที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยว ก็เช่น Prince of Wales Northern Heritage Centre หรือ เส้นทางเดินป่า Cameron Falls หรือเดินเที่ยวชมย่านเมืองเก่า

เมืองเยลโลไนฟ์.jpg
ทะเลสาบเลค หลุยส์.jpg

ทะเลสาบเลค หลุยส์ (Lake Louise)

หนึ่งที่เที่ยวที่โด่งดังไม่แพ้ rocky mountain หรือน้ำตกไนแอการา คือทะเลสาบเลค หลุยส์ ทะเลสาบมีสีฟ้าเทอควอยซ์สวยงามใสสะอาด บรรยากาศล้อมรอบไปด้วย แนวของเทือกเขาร็อคกี้ เมาท์เทน (Rocky Mountains) นอกจากนี้ที่ทะเลสาบยังมีหมู่บ้านเล็กๆและมี สกีรีสอร์ท อย่าง เลค หลุยส์ Mountain Resort ที่ทะเลสาบแห่งนี้สวยงามราวกับภาพวาด ไม่ว่าจะถ่ายรูปมุมไหนก็ออกมาสวยงามอย่างแน่นอน

 สวนสาธารณะ สแตนลีย์ พาร์ค (Stanley Park) เช็คอินกันอีกหนึ่งที่กับที่เที่ยวแคนาดาคือ สวนสาธารณะ สแตนลีย์ พาร์ค ตั้งอยู่กลางเมืองแวนคูเวอร์ มีพื้นที่กว่า 10,000 เอเคอร์ ในสวนลึกเข้าไปมีต้นไม้ใหญ่ที่มีอายุนับ 100 ปี ผู้คนที่นี่นิยมมาวิ่งออกกำลังกาย ปั่นจักรยาน เดินเล่น พักผ่อนหย่อนใจ หรือกิจกรรมสำหรับนักท่องเที่ยวอย่างการนั่งรถม้าชมวิวเป็นเวลา 1 ชั่วโมงก็มีบริการ และไฮไลท์ของทีนี่คือ กลุ่มเสาโทเทม (Totem) เสาสัญลักษณ์ที่ตั้งไว้เพื่อเป็นที่ระลึกว่าบริเวณนี้เคยเป็นถิ่นที่อยู่ของ ชนชาวพื้นเมืองอินเดียนมาก่อน หากกำลังหาที่เที่ยวที่นั่งชิลๆได้สบายๆในแคนาดาก็ต้องมาที่นี่เลย

สวนสาธารณะ สแตนลีย์ พาร์ค.jpg

สวนสนุกแคนาดาวันเดอร์แลนด์ ( Canada Wonderland ) สวนสนุกตั้งอยู่ที่เมืองวอร์แกน มีเครื่องเล่นและสิ่งที่น่าสนใจมากกว่า 200 อย่าง เช่น Leviathan ความสูง 306 ฟุต (93 เมตร) เป็นโรลเลอร์โคสเตอร์ที่สูงที่สุดในแคนาดา มี สวนน้ำ Splash Works มี Planet Snoopy มี Wonder Mountain ภูเขาเทียมที่อยู่บริเวณใจกลางสวนสนุก ภายในสวนสนุกมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีพื้นที่กว้างขวาง ที่สำคัญคือไม่ต้องเข้าแถวต่อคิวเครื่องเล่นแต่ละชนิดนานๆ เพราะเครื่องเล่นมีมากมายให้เลือก

สวนสนุกแคนาดาวันเดอร์แลนด์.jpg
กลาเซียร์ สกายวอล์ค.jpg

กลาเซียร์ สกายวอล์ค (Glacier Skywalk) สัมผัสประสบการณ์สุดหวาดเสียวกับทางเดินกระจก ความสูงอยู่ที่ 280 เมตร (918 ฟุต) คนกลัวความสูงหัวใจต้องหล่นไปที่ตาตุ่มอย่างแน่นอน แต่วิวสวยๆอาจจะช่วยให้หายกลัวได้ การชมวิว Columbia Icefield ในแบบพาโนรามา ที่นี่ถือเป็นจุดชมวิวที่สวยงามอันดับต้นๆของโลกเลยก็ว่าได้ หากมีโอกาสต้องลองไปสัมผัสสักครั้ง

เทือกเขาร็อกกี้ของแคนาดา (The Canadian Rockies) เทือกเขาร็อกกี้ของแคนาดาเป็นเทือกเขาที่มีความสวยงามและยิ่งใหญ่มากที่สุดในประเทศแคนาดา ทอดตัวเป็นแนวพรมแดนตั้งแต่ทางด้านเหนือสุดของรัฐบริติชโคลัมเบีย (British Columbia) ประเทศแคนาดา ยาวไปจนถึงรัฐนิวเม็กซิโก ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวชมเทือกเขาร็อกกี เมาน์เทน จะอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแบมฟ์ (Banff National Park) และอุทยานแห่งชาติแจสเปอร์ (Jasper National Park) รัฐแอลเบอร์ตา (Alberta) ซึ่งมีเส้นทางขับรถชมยอดเขาที่สวยงามมาก ๆ โดยเฉพาะบนเส้นทาง Icefields Parkway และ Trans-Canada Highway ช่วงเมืองแจสเปอร์

เทือกเขาร็อกกี้ของแคนาดา.jpg
เมืองแวนคูเวอร์.jpg

เมืองแวนคูเวอร์ (Vancouver) เมืองแวนคูเวอร์เป็น ที่เที่ยวแคนาดา แห่งหนึ่ง ที่คุณจะได้เห็นเมืองและธรรมชาติอยู่ด้วยกันอย่างสวยงามและลงตัว คุณจะเห็นความงามของน้ำทะเลจรดท้องฟ้าล้อมรอบมหานครใหญ่ ทั้งภูเขาที่เล่นสกีได้ในบริเวณรอบนอก ชายหาดริมชายฝั่ง และต้นไม้ขนาดใหญ่ที่มีอายุนับ 100 ปีในสวนสาธารณะสแตนลีย์ (Stanley Park) ที่มีพื้นที่กว้างขวางถึง 4 ตารางกิโลเมตร เป็นแหล่งพักผ่อนยอดนิยมของชาวเมืองและเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์และนกหลายชนิด เพียงไม่กี่ก้าวจากตึกสูงในย่านดาวน์ทาวน์

เกาะมานิทูลิน (Manitoulin Island)

เกาะมานิทูลินมีพื้นที่ 2,766 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยุ่บนอ่าวจอร์เจียกลางทะเลสาบฮูรอน เป็นเกาะน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ภายในเกาะยังมีทะเลสาบน้ำจืดอีก 108 แห่ง ที่ใหญ่ที่สุดคือทะเลสาบ Manitou ทะเลสาบ Kagawong และทะเลสาบ Mindemoya ที่ล้วนแต่มีเกาะเป็นของตัวเองเช่นกัน คุณสามารถพายเรือเล่นในทะเลสาบหรือแม่น้ำ ชมความงามของน้ำตกไบรดัลเวล (Bridal Veil) ไหลลดหลั่นลงมาเหนือหุบเขาใกล้ทะเลสาบ Kagawong

เกาะมานิทูลิน.jpg

เกาะแวนคูเวอร์ (Vancouver Island)

ถึงแม้ว่าจะใช้เวลาเพียง 90 นาทีนั่งเรือข้ามฟากจากเมืองแวนคูเวอร์อันวุ่นวายมาสู่เมืองวิคตอเรีย เมืองหลวงของบริติชโคลัมเบียที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ อยู่บนปลายสุดทางตอนใต้ของเกาะแวนคูเวอร์ คุณจะรู้สึกราวกับย้อนไปสู่ยุคอาณานิคมอังกฤษตั้งแต่ทศวรรษที่ 1840 คุณจะได้เห็นบบรยากาศที่แปลกตาออกไป มีร้านค้าสไตล์โบฮีเมียน บาร์กาแฟที่ปูพื้นด้วยไม้ และวัฒนธรรมแบบอังกฤษ อย่างเช่น การดื่มชายามบ่าย สวนอังกฤษที่ตกแต่งอย่างสวยงาม

เมืองวิสต์เลอร์.jpg

เกาะแบฟฟิน (Baffin Island) เกาะแบฟฟิน เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดของประเทศแคนาดา และเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 5 ของโลก อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะกรีนแลนด์ ติดกับอ่าวแบฟฟิน คาบสมุทรคัมเบอร์แลนด์ ช่องแคบฮัดสันและช่องแคบเดวิส มีหิมะอยู่ทางเหนือของเกาะ และทางใต้ที่ติดกับอ่าวฟรอบิสเซอร์ มีเมืองสำคัญคืออีคาลูต (Iqaluit) เมืองหลวงของดินแดนนูนาวุต (Nunavut) ที่ประชากรกว่าครึ่งของเกาะแบฟฟินอาศัยอยู่ที่นั่น

ย่านเมืองเก่าควิเบก.jpg

เมืองโตรอนโต (Toronto)

เมืองโทรอนโตเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในแคนาดา มีความเจริญรุ่งเรืองอย่างรวดเร็ว ภายในเมืองเต็มไปด้วยตึกสูงระฟ้า และอาคารสุดทันสมัย มีผู้คนหลากหลายเชื้อชาติต่างแวะเวียนมาอยู่อาศัยและเที่ยวชม ตัวเมืองอยู่ติดกับทะเลสาบออนแทรีโอ (Lake Ontario) ที่นี่จึงมีบรรยากาศที่น่าหลงใหล ไม่ว่าใครได้มาเยือนก็ต้องหลงรักเมืองโตรอนโต คุณจะตื่นตาตื่นใจกับความหลากหลายทางวัฒนธรรมในเมืองใหญ่ ลิ้มรสอาหารหลากหลายเชื้อชาติ ชมแกลเลอรีศิลปะยุคใหม่ โรงละครชั้นนำ ห้องแสดงดนตรีร็อค และความคลั่งไคล้ในกีฬาฮอกกี้ที่ช่วยเพิ่มความยิ่งใหญ่ให้กับมหานครแห่งนี้

เกาะแวนคูเวอร์.jpg

เมืองวิสต์เลอร์ (Whistler) ในรัฐบริติชโคลัมเบียอยู่ห่างจากใจกลางเมืองแวนคูเวอร์เพียง 90 นาทีโดยรถยนต์ ที่เที่ยวแคนาดา แห่งนี้มีภูมิทัศน์ที่สวยงามน่าตื่นตาตื่นใจ ทำให้เมืองแห่งนี้เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าประทับใจตลอดทั้งปี หมู่บ้านบนเทือกเขาแห่งนี้เป็นสถานที่จัดงานโอลิมปิกฤดูหนาวปี 2010 เป็นหนึ่งในสกีรีสอร์ทที่ใหญ่ที่สุด มีอุปกรณ์ครบครันและเป็นที่นิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีทางสกีว่า 200 เส้นทางที่คดเคี้ยวไปตามภูเขาสูงตระหง่านสองลูก ได้แก่ ภูเขาวิสต์เลอร์และภูเขาแบล็คคอมบ์

เกาะแบฟฟิน.jpg

ย่านเมืองเก่าควิเบก (Old Québec City)  รัฐควิเบก (คนท้องถิ่นเรียกตามภาษาฝรั่งเศสว่าเกแบ็ก) ค้นพบครั้งแรกโดยนักสำรวจชาวฝรั่งเศส และถูกสร้างเป็นอาณานิคมฝรั่งเศสใหม่ คนส่วนใหญ่สืบเชื้อสายมาจากชาวฝรั่งเศสที่เข้ามาตั้งรกรากเมื่อ 400 ปีก่อน ดังนั้นผู้คนที่นี่จะใช้ภาษาฝรั่งเศสในการสื่อสาร เมืองควิเบกซิตี้เป็นเมืองหลวงของรัฐควิเบก และเป็นหนึ่งในการตั้งพิ่นฐานของชาวยุโรปที่เก่าแก่ที่สุดในอเมริกาเหนือ ใจกลางเมืองควิเบกเป็นย่านประวัติศาสตร์ที่รู้จักกันในชื่อย่านเมืองเก่าควิเบก (Old Quebec หรือ Vieux-Québec) และเป็นมรดกโลกของ UNESCO ที่นำเสนอการผสมผสานที่เป็นเอกลักษณ์ของเสน่ห์และความมีชีวิตชีวาของชุมชนสไตล์ยุโรปยุคเก่าที่เป็นมิตร และวัฒนธรรมของแคนาดาเข้าไว้ด้วยกัน

เมืองโตรอนโต.jpg

อุทยานไดโนเสาร์แห่งรัฐ (Dinosaur Provincial Park)

อุทยานไดโนเสาร์แห่งรัฐ เป็นเขตอนุรักษ์ธรรมชาติที่สำคัญมากของแคนาดา จนได้รับการคัดเลือกจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก ตั้งอยู่ในหุบเขา Red Deer River ทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐอัลเบอร์ตา เป็นดินแดนซากฟอสซิลในพื้นที่กว่า 73 ตารางกิโลเมตร หรือ 45,625 ไร่ มีทัศนียภาพทางธรรมชาติที่สวยงาม  เป็นที่รู้จักในฐานะแหล่งรวบรวมฟอสซิลที่มีชื่อเสียงและมีคอลเล็กชันฟอสซิลไดโนเสาร์ที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดในโลก คุณจะได้เห็นดินและหินรูปร่างแปลกๆ ที่เกิดจากการกัดเซาะของธารน้ำแข็งเมื่อหลายสิบล้านปีก่อน ได้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในยุคดำดำบรรพ์

อุทยานไดโนเสาร์แห่งรัฐ.jpg
น้ำตกไนแองการ่า.jpg

น้ำตกไนแองการ่า (Niagara Falls) น้ำตกไนแองการ่าอาจไม่ได้สูงจนติดอันดับความสูง 500 อันดับแรกของโลก แต่ก็ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในน้ำตกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ระหว่างชายแดนรัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา และรัฐออนตาริโอ ประเทศแคนาดา ซึ่งน้ำตกแห่งนี้จะประกอบด้วย 3 น้ำตกด้วยกัน คือน้ำตกเกือกม้า (Horseshoe Falls) อยู่ทางฝั่งแคนาดา, น้ำตกอเมริกา (American Falls) อยู่ทางฝั่งสหรัฐอเมริกา และน้ำตก Bridal Veil อยู่ทางฝั่งอเมริกาเช่นกัน

เมืองเชอร์ชิลล์ (Churchill) เมืองเชอร์ชิล เป็นเมืองเล็กๆ ของแคนาดาที่อยู่ติดกับอ่าวฮัดสัน อยู่ในรัฐมานิโตบา ตอนกลางของประเทศ เมืองนี้เดิมเคยเป็นเมืองท่าขนส่งในอ่าวฮัดสัน แต่ปัจจุบันหมีขาวขั้วโลกได้นำนักท่องเที่ยวมาที่นี่จนกลายเป็นกึ่งเมืองท่องเที่ยวของแคนาดา จนเมืองเชอร์ชิลล์ได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองหลวงของหมีขั้วโลก หมีขั้วโลกจะอาศัยอยู่ละแวกอ่าวฮัดสันซึ่งจับตัวเป็นน้ำแข็งในช่วงหน้าหนาว ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนจนถึงราวเดือนมิถุนายน เพื่อจับแมวน้ำกินเป็นอาหารหลัก แต่พอเข้าหน้าร้อนอ่าวฮัดสันจะละลาย พวกมันก็เลยต้องกลับมาขึ้นฝั่ง ซึ่งเป็นช่วงที่เราจะมีโอกาสได้เจอกับหมีขั้วโลกเหล่านี้

เมืองเชอร์ชิลล์.jpg
ชิกเก้น พอท พาย.jpg

ชิกเก้น พอท พาย (Chicken Pot Pie) อาหารแคนาดาเมนูนี้ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในเมนู Pot Pie ที่มีชื่อเสียงมากที่สุด เป็นเมนูอาหารอเมริกันที่ได้รับการฟื้นฟูในอังกฤษเมื่อช่วงศตวรรษที่ 16 อีกทั้งยังเป็นเมนูที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในอเมริกา เมนูนี้ตามแบบฉบับของแคนาดาจะไม่มีสูตรกำหนดที่ตายตัว เพราะสามารถเลือกใช้วัตถุดิบและส่วนผสมต่าง ๆ ที่มีอยู่ได้ตามชอบ แต่โดยทั่วไป Chicken Pot Pie ของแคนาดา มักจะมีเปลือกของพายด้านบนที่ไม่สม่ำเสมอ และไส้ด้านในจะเป็นเนื้อไก่ พร้อมด้วยผักต่าง ๆ เช่นถั่วลันเตา, มันฝรั่ง, หัวหอม และแครอท เมนูง่าย ๆ เต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ ที่อยากให้ลองเมื่อมาเที่ยวแคนาดากันค่ะ

อุรามากิ (Uramaki) อุรามากิ (Uramaki) หรือแคลิฟอร์เนียโรล (California roll) เป็นอาหารแคนาดาที่ถูกคิดค้นขึ้นในแคลิฟอร์เนีย โดยเชฟชาวญี่ปุ่นชื่อ Ichiro Mashita ในปี 1960 เมนูซูชิที่ประกอบไปด้วยข้าวซูชิ, สาหร่ายโนริ, ปูหรือซูริมิ, อะโวคาโด และแตงกวา ซึ่งซูชิประเภทนี้จะมีความแตกต่างจากซูชิประเภทอื่น ๆ เนื่องจากจะมีการเอาข้าวไว้ด้านนอก พันม้วนรอบสาหร่ายโนริที่อยู่ด้านใน และล้อมรอบไส้เอาไว้อีกที โดยทั่วไปมักจะม้วนด้วยงาคั่วที่อยู่ด้านนอกสุด เสิร์ฟพร้อมกับซอสถั่วเหลืองและขิงดอง พร้อมด้วยวาซาบิที่อยู่ด้านข้าง เป็นเมนูอาหารญี่ปุ่นตามแบบฉบับของอาหารแคนาดาที่ไม่อยากให้พลาดกันค่ะ

เนื้อรมควันมอนทรีออล.jpg

ทาร์ตเนย (Butter tarts) เมนูอาหารแคนาดาแสนเรียบง่าย ซึ่งได้รับสถานะว่าเป็นสัญลักษณ์ของอาหารประจำชาติแคนาดา ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ส่วนผสมของไส้แบบดั้งเดิมของทาร์ตเนยจะทำมาจาก วอลนัท, ไข่, น้ำตาลทรายแดง, เนย และน้ำส้มสายชู ใส่ลงในเปลือกทาร์ตขนาดเล็กที่ทำเป็นถ้วยลึกซึ่งมีตัวแป้งค่อนข้างร่วนซุย แล้วนำไปอบ โดยสามารถใส่ลูกเกดลงไปในส่วนผสมได้ ปัจจุบันทาร์ตเนยเป็นอาหารแคนาดาที่ได้รับความนิยมเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในจังหวัดออนแทรีโอและโนวาสโกเชีย สีของตัวทาร์ตที่อบจะขึ้นอยู่กับส่วนผสมของน้ำตาลทรายแดงที่ใช้ และไส้ด้านในอาจจะถูกอบจนแข็ง หรือยังคงมีความเปียกอยู่ก็ได้

อุรามากิ.jpg

เนื้อรมควันมอนทรีออล (Montreal smoked meat) อาหารแคนาดาเมนูนี้เป็นแซนด์วิชเนื้อสำเร็จรูปชนิดหนึ่ง ซึ่งมีต้นกำเนิดอยู่ในเมืองมอนทรีออล (Montreal) ประเทศแคนาดา เนื้อสัตว์ที่ใช้สำหรับอาหารประจำชาติแคนาดาเมนูนี้ มีกระบวนการเตรียมและมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ เมื่อผู้อพยพชาวโรมาเนียได้เริ่มทำเนื้อรมควันขึ้นในมอนทรีออลเมื่อปี 1928 โดยนำเนื้อไปหมักไว้ในส่วนผสมของสมุนไพรและเครื่องเทศเป็นเวลาอย่างน้อย 10 วัน จากนั้นจึงนำไปรมควัน ได้เป็นเนื้อที่มีรสชาติโดดเด่นและมีกลิ่นควันที่เข้มข้น หั่นเนื้อที่ได้เป็นชิ้นพอดีคำและวางลงในขนมปังแซนด์วิช เสิร์ฟพร้อมเฟรนช์ฟราย, ผักดอง, โคลสลอว์สีเหลือง, มัสตาร์ด, พริก หรือมะกอก เป็นเมนูอาหารแคนาดายอดฮิต ที่เราจะเห็นคนต่อคิวซื้อกันเป็นแถวยาวโดยเฉพาะตามร้านในเมืองมอนทรีออลค่ะ

ทาร์ตเนย.jpg
การ์ลิค ฟิงเกอร์.jpg

ปลาแซลมอนไม้ซีดาร์ (Cedar-plank salmon) อาหารแคนาดาเมนูปลาอันแสนโอชะ ที่เป็นการนำเอาปลาแซลมอนมาปรุงบนแผ่นไม้ซีดาร์ อันเป็นวิธีการทำอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร เชื่อกันว่าเป็นวิธีปฏิบัติของชาวอเมริกันพื้นเมือง ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ต้นซีดาร์แดงตะวันตกซึ่งปราศจากสารเคมีใด ๆ นำมาแช่อยู่ในน้ำที่เติมเกลือหยาบ, น้ำผลไม้ หรือไวน์ จากนั้นนำไปอุ่นบนตะแกรงที่มีถ่านไม้อยู่ด้านล่างให้แห้ง ปลาแซลมอนจะถูกนำไปหมักในน้ำมัน พร้อมด้วยเครื่องปรุงรสและสมุนไพรสดที่มีกลิ่นหอม หรือเคลือบด้วยส่วนผสมของมัสตาร์ดและน้ำเชื่อมเมเปิ้ล, น้ำผึ้ง หรือน้ำตาลทรายแดง จากนั้นนำมาปรุงบนไม้ซีด้าร์ที่อุ่นอยู่บนตะแกรง การปรุงแบบนี้จะทำให้แซลมอนได้กลิ่นหอมของควันไฟซึ่งได้จากไม้ซีดาร์ และยังคงความชุ่มฉ่ำของเนื้อปลาเอาไว้ได้เป็นอย่างดี

การ์ลิค ฟิงเกอร์ (Garlic fingers) การ์ลิค ฟิงเกอร์ (Garlic fingers) เป็นอาหารแคนาดาที่ได้รับความนิยมไปทั่วประเทศ อาหารประจำชาติแคนาดาเมนูนี้หน้าตาจะดูคล้ายกับพิซซ่า แต่เวลาเสิร์ฟจะถูกตัดเป็นเส้น ๆ คล้ายกับนิ้ว ซึ่งแตกต่างจากการตัดพิซซ่าทั่วไป เมนูนี้ประกอบไปด้วยแป้งพิซซ่าซึ่งโรยหน้าด้วยชีส, เนยกระเทียม และใบพาสลี่ย์ นำไปอบจนชีสละลาย แล้วโรยหน้าด้วยผักชีลาว (Dill), ผักต่าง ๆ หรือเบคอน เป็นอาหารแคนาดาที่นิยมรับประทานคู่กับพิซซ่าเป็นเครื่องเคียง และมาพร้อมกับซอสสำหรับจิ้มเช่น โดแนร์ หรือมารินารา  

ปลาแซลมอนไม้ซีดาร์.jpg

ชีสเคิร์ด (Cheese Curds)  ชีสเคิร์ด (Cheese Curds) เป็นเมนูอาหารท้องถิ่นในแถบมิดเวสต์ของสหรัฐอเมริกาและแคนาดา โดยใช้เต้าหู้ที่ก่อตัวขึ้นก่อนที่จะเซ็ตตัวเป็นชีส ซึ่งมีเนื้อสัมผัสนุ่มหยุ่นคล้ายกับยาง และจะมีเสียงดังเอี๊ยดเล็กน้อยเมื่อกัดเข้าไป จึงทำให้บางครั้งนิยมเรียกเมนูนี้ว่า “Squeaky cheese” ซึ่งแปลว่าชีสส่งเสียงดังเอี๊ยดนั่นเอง ซึ่งเสียงที่เกิดขึ้นเวลากัดบ่งบอกถึงความสดใหม่ของชีส ในแคนาดานิยมรับประทาน Cheese Curds เป็นเครื่องเคียงร่วมกับเมนูปูทีน (Poutine)

ชีสเคิร์ด.jpg
เนื้อผัดขิง.jpg

ซูชิ พิซซ่า (Sushi pizza) อาหารแคนาดาที่ได้รับอิทธิพลมาจากอาหารญี่ปุ่น ซึ่งถูกคิดค้นโดยเชฟชาวญี่ปุ่นชื่อว่า คาโอรุ โอซาดะ ในร้านอาหารชื่อนามิ โดยเชฟจะทำการทอดข้าวซูชิ โรยด้วยปลาแซลมอน, ไข่ปลาโทบิโกะ, ทูน่า, ปู, อะโวคาโดสไลซ์, มายองเนสรสเผ็ด, น้ำหอมสับ และซอสถั่วเหลืองวาซาบิ เสิร์ฟพร้อมกับซอสถั่วเหลืองและขิงดองที่อยู่ด้านข้าง เมนูนี้เป็นอาหารแคนาดาที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากโดยเฉพาะในโตรอนโต้ อีกทั้งยังได้รับความนิยมไปยังประเทศข้างเคียงอย่างสหรัฐอเมริกาอีกด้วยค่ะ

เนื้อผัดขิง (Ginger beef) เนื้อผัดขิง (Ginger beef) เป็นอาหารแคนาดาที่ได้รับอิทธิพลมาจากอาหารจีน ถูกคิดค้นขึ้นในปี 1970 โดยเชฟชาวจีน George Wong ที่ ร้านอาหาร Silver Inn ในเมืองคาลการี (Calgary) อาหารประจำชาติแคนาดาจานนี้ ประกอบไปด้วยเนื้อวัวหมักที่นำมาชุบแป้งทอด ซึ่งแป้งที่ใช้ประกอบไปด้วยไข่, น้ำ, แป้งข้าวโพด, แป้ง และพริกไทยขาว แล้วผัดกับซอสสีเข้มรสเผ็ดหวาน ซึ่งทำมาจากซีอิ๊วขาว, ซีอิ๊วเห็ด, น้ำส้มสายชูขาว, เหล้าจีน, น้ำตาล, น้ำเปล่า และพริกป่น พร้อมด้วยผักต่าง ๆ เช่น แครอท, พริกหยวก, กระเทียม และที่ขาดไปไม่ได้ก็คือขิงนั่นเองค่ะ อาหารแคนาดาเมนูนี้นิยมเสิร์ฟเป็นกับข้าวคู่กับข้าวสวย

ซูชิ พิซซ่า.jpg
ตูร์ติแยร์.jpg

ตูร์ติแยร์ (Tourtière) อาหารแคนาดาเมนูพายเนื้อใส่เครื่องเทศ ซึ่งนิยมเตรียมกันในช่วงวันคริสต์มาสและวันส่งท้ายปีเก่า พายรสเผ็ดกลิ่นหอมที่มักจะทำด้วยเนื้อหมู หรือบางครั้งสามารถใช้เนื้อวัว เพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสและรสชาติที่มีความแตกต่างออกไป โดยจะนำเนื้อสัตว์มาปรุงเพิ่มด้วยมันฝรั่งหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า หรือจะใช้มันบดก็ได้ พร้อมกับเครื่องเทศต่าง ๆ เช่น อบเชย, กานพลู, ลูกจันทน์เทศ ซึ่งไส้ของพายจะมีแป้งพายปิดด้านบนเอาไว้ เพื่อให้ตัวไส้ยังคงเก็บความร้อนระอุเอาไว้ด้านใน เหมาะสำหรับการเป็นอาหารในฤดูหนาวได้เป็นอย่างดีนิยมเสิร์ฟพร้อมกับเครื่องเคียงที่มีรสเปรี้ยวอมหวาน เช่น ซอสแครนเบอร์รี่หรือบีทรูทดองเป็นต้น

ปาเตชิโน (Pâté chinois) อาหารแคนาดายอดนิยมจากรัฐควิเบก ซึ่งประกอบไปด้วยชั้นของเนื้อบด และข้าวโพดผสมกับครีม พร้อมด้วยชั้นของมันฝรั่งบดโปะอยู่ด้านบน อาหารประจำชาติแคนาดาจานหลักที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไปในรัฐควิเบก โดยทั่วไปจะเสิร์ฟพร้อมกับซอสมะเขือเทศที่วางเอาไว้ด้านข้าง ชื่อของเมนูมีความหมายว่าพายจีน โดยมีความเชื่อกันว่าถูกทำขึ้นมาโดยพ่อครัวชาวจีน ระหว่างการสร้างทางรถไฟของแคนาดาในช่วงศตวรรษที่ 19 ที่ได้ดัดแปลงมาจากเมนู Shepherd's pie ที่มีชื่อเสียง

ปาเตชิโน.jpg

เบเกิลสไตล์มอนทรีออล (Montreal-style bagel)  เบเกิลชนิดนี้มาถึงแคนาดาที่เมืองมอนทรีออลในช่วงต้นปี 1900 โดยผู้อพยพชาวยิวในยุโรปตะวันออก สำหรับผู้ที่ทำเบเกิลสไตล์มอนทรีออลเจ้าแรกนั้นยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ บ้างก็ว่าเป็นคนทำขนมปังชื่อ Isadore Schlafman บ้างก็ว่าเป็นคนขายขนมปังจากรถม้าชื่อ Hyman Seligman จาก Dvinsk แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เมนูนี้ก็ได้กลายเป็นอาหารแคนาดายอดนิยมในปัจจุบัน โดยจะนำเอาแป้งเบเกิลไปต้มในน้ำผึ้งก่อนที่จะนำมาอบ ม้วนและตัดด้วยมือแล้วขึ้นรูปให้มีรูขนาดใหญ่ตรงกลาง ผิวด้านนอกจะมีความกรุบกรอบในขณะที่ด้านในมีความนุ่มหนุบหนับ โดยทั่วไปแล้วจะมีให้เลือกด้วยกัน 2 แบบ คือ เบเกิลงาขาว และเบเกิลงาดำ

เบเกิลสไตล์มอนทรีออล.jpg
แซลมอนพาย.jpg

แซลมอนพาย (Salmon pie) อาหารแคนาดาเมนูนี้มีต้นกำเนิดมาจากรัฐควิเบก เป็นเมนูอาหารประจำชาติแคนาดาที่อร่อย อิ่มสบายท้อง อีกทั้งยังมีราคาไม่แพง ประกอบไปด้วยแป้งพายที่มีส่วนผสมของมันบด พร้อมด้วยปลาแซลมอนปรุงสุก ปรุงรสด้วยเครื่องเทศและส่วนผสมต่าง ๆ เช่น พริกไทยดำ, ผักชีฝรั่ง, โหระพา, ไข่ และหัวหอม ซึ่งวัตถุดิบที่ใช้อาจมีความแตกต่างกันออกไปแล้วแต่พื้นที่ จากนั้นนำแซลมอนและแป้งพายที่เตรียมไว้ไปอบจนเป็นสีน้ำตาลทอง และมักจะโรยหน้าด้วยครีมเปรี้ยวเล็กน้อยก่อนนำไปเสิร์ฟ

เทอร์ดัคเค่น (Turducken) เมนูนี้เป็นอาหารแคนาดาสไตล์ American-Canadian ที่มีต้นกำเนิดมาจากอาหารฝรั่งเศสอย่างเมนูกาแลนทีน (galantine) โดยชาว Cajun ได้ทำการดัดแปลงจนกลายมาเป็นไก่เทอร์ดักเกน และกลายมาเป็นอาหารประจำชาติแคนาดาในที่สุด เป็นเมนูที่ประกอบไปด้วยไก่เลาะกระดูก แล้วยัดเข้าไปในตัวเป็ดที่เลาะกระดูกออกเช่นกัน จากนั้นนำไปยัดในไก่งวงที่เลาะกระดูกออกแล้วอีกทีหนึ่ง โดยช่องว่างด้านในสุดจะถูกยัดไส้ด้วยส่วนผสมของเกล็ดขนมปัง, เนื้อ หรือไส้กรอก จึงทำให้มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “three-bird roast” หรือนกย่าง 3 ตัว ซึ่งชื่อเมนูก็เกิดจากคำผสมของ turkey, duck, และ chicken นั่นเองค่ะ เวลาเสิร์ฟจะหั่นตามขวาง เพื่อให้แต่ละชิ้นนั้นมีเนื้อทั้ง 3 ประเภทและไส้ที่ครบถ้วนภายในจานเดียวกัน

เทอร์ดัคเค่น.jpg
แซนด์วิชเบคอนพีมีล.jpg

แซนด์วิชเบคอนพีมีล (Peameal bacon sandwich) อาหารแคนาดาเมนูแซนด์วิชที่เรียบง่ายนี้มีต้นกำเนิดมาจากเมืองโตรอนโต ทำมาจากเบคอนพีมีลชิ้นหนา ซึ่งได้มาจากเนื้อซี่โครงหมูแบบไม่มีกระดูกที่นำมาหมักและรีดในแป้งข้าวโพด แต่ที่ถูกเรียกว่าเบคอนพีมีลเนื่องจากในอดีตจะรีดในถั่วลันเตาสีเหลืองป่น ก่อนที่จะหันมาใช้แป้งข้าวโพดเหมือนในปัจจุบันนั่นเอง นิยมนำมาเสิร์ฟบนขนมปังอบใหม่ ๆ แล้วราดด้วยน้ำผึ้งหรือมัสตาร์ด แต่ชาวแคนาดาจะนิยมใช้ทั้งสองอย่างผสมกัน เสริมด้วยชีส, ไข่, มะเขือเทศ หรือผักกาดหอม เป็นอาหารเช้าแสนอร่อยที่ได้รับความนิยมไปทั่วประเทศ

แฮลิแฟกซ์ โดแนร์ (Halifax donair) เมนูนี้เป็นอาหารแคนาดาจานเนื้อแนวสตรีทฟู้ดที่ได้รับความนิยม เมนูอาหารประจำชาติแคนาดาที่ถูกคิดค้นขึ้นในปี 1970 โดยชายชาวกรีกที่ชื่อว่า Peter Gamoulakos เป็นเมนูที่ประกอบด้วยขนมปังพิต้าสอดไส้เนื้อย่าง พร้อมด้วยหัวหอม, มะเขือเทศ และซอสโดแนร์ (donair sauce) อันเป็นเอกลักษณ์ ที่ทำให้อาหารแคนาดาเมนูนี้มีความโดดเด่นไม่เหมือนใคร โดยเนื้อจะนำไปปรุงรสด้วยเครื่องเทศต่าง ๆ ในขณะที่ซอสสวีตโดแนร์ จะเป็นส่วนผสมของกระเทียม, น้ำส้มสายชู, น้ำตาล และนมข้น ห่อด้วยกระดาษฟอยล์อลูมิเนียมก่อนนำไปเสิร์ฟ เมนูนี้ได้รับการประกาศให้เป็นอาหารแคนาดาอย่างเป็นทางการของเมือง Halifax เมื่อปี 2015 พิสูจน์ให้เห็นได้ถึงความนิยมเป็นอย่างมากของชาวเมือง ที่มีต่ออาหารแคนาดาเมนูนี้ได้เป็นอย่างดี

แฮลิแฟกซ์ โดแนร์.jpg

ห้างสรรพสินค้าใน แคนนาดา

Montréal Underground City

https://maps.app.goo.gl/Hgp2Uficq898Kt5R7

Montréal Underground City.png
Granville Island Public Market.png

Granville Island Public Market

https://maps.app.goo.gl/EFR9ENKNh26MpJBZ7

McArthurGlen Designer Outlet Vancouver

https://maps.app.goo.gl/kwNjUxLD2qNsRmMC9

McArthurGlen Designer Outlet Vancouver.png
Richmond Night Market.png
Yorkdale Shopping Centre.png

Pocket Spirits อีกหนึ่ง ของฝากแคนาดา  อันมีเอกลักษณ์กับ เหรียญโลหะพ็อกเก็ตสปิริตส์ เป็นเหรียญโลหะขนาดเล็กมีลวดลายต่างๆ แตกต่างกันไป ซึ่งชาวแคนาดาเชื่อว่าเป็นเครื่องรางที่ช่วยในเรื่องต่างๆ ทั้งป้องกัน การบำบัด ช่วยเสริมพลัง รวมถึงหนุนดวงความรัก และมีเหรียญนำโชคช่วยเสริมในด้านอื่นๆ อีกมากมาย เอาไว้พกใส่กระเป๋าสตางค์ ถ้าซื้อของฝากชิ้นนี้กลับไทย รับรองว่าไม่เปลืองน้ำหนักกระเป๋าค่ะ

Pocket Spirits.jpg
ผลิตภัณฑ์จากเมเปิ้ล.jpg

 ไอซ์ไวน์ (Icewine)

ใครเป็นนักดื่มไม่ควรพลาด ไอซ์ไวน์ เครื่องดื่มไวน์องุ่นรสเลิศหอมละมุน ของฝากยอดฮิตมายาวนาน เริ่มผลิตครั้งแรกในปี 1984 จากองุ่นที่อยู่ในช่วงฤดูหนาวที่อากาศติดลบมากกว่า -8 องศาเซลเซียส ทำให้องุ่นสุกถูกแช่แข็งกลายเป็นเกล็ดน้ำแข็ง พร้อมด้วยกระบวนการบ่มที่ละเมียดละไม จนได้ไวน์สูตรเข้มข้น ซึ่งไวน์ที่ดีทุกขวดทุกแบรนด์จะได้รับฉลาก Icewine ผ่านการรับรองโดย VQA Ontario การันตีถึงคุณภาพเยี่ยมไม่ผิดหวัง มีให้เลือกทั้งไวน์ขาว ไวน์แดง หลากหลายยี่ห้อ ใครได้ชิมแล้วจะบอกเลยว่า ฟิน!

ผลิตภัณฑ์จากเมเปิ้ล เพราะทุกอย่างในแคนาดาแทบจะเป็นเมเปิ้ลทั้งหมด มัชรูมทราเวลขอแนะนำ ของฝากแคนาดา น่าสนใจอย่าง ผลิตภัณฑ์จากใบเมเปิ้ล ใบไม้สีแดงสัญลักษณ์ประจำธงชาติแคนาดา ที่นี่มีผลิตภัณฑ์มากมายที่มีส่วนผสมของใบเมเปิ้ล อย่างเช่น เมเปิ้ลไซรัปที่หอมมากๆ รวมไปถึงขนมฟัดจ์ หรือ Maple Fudge รสชาติหวานๆ ถูกใจคนชอบทานขนม นอกจากนี้ยังมีข้าวของทุกอย่างจากแคนาดาที่ต้องมีสัญลักษณ์ใบเมเปิ้ล อย่างเช่น แม็กแน็ตติดตู้เย็น ผ้าเช็ดตัว เสื้อยืด และอีกมากมาย แต่ละอย่างน่าซื้อทั้งนั้น ยังไงก็คำนวณน้ำหนักกระเป๋าดีๆ ด้วยนะคะ รับรองว่าซื้อให้ใครก็รู้ทันทีว่าเราไป เที่ยวแคนาดา มา หาซื้อง่ายทั่วประเทศเลย

ไอซ์ไวน์ (Icewine).jpg
เครื่องประดับจากหินและกระดูกสัตว์.jpg

เครื่องประดับจากหินและกระดูกสัตว์ อย่างที่ทราบดีว่าแคนาดามีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติมากๆ ดังนั้น การหาของฝากกลับไทยหลังจาก เที่ยวแคนาดา อีกหนึ่งอย่างที่น่าสนใจก็คือ เครื่องประดับจากหินและกระดูกสัตว์ ของที่ระลึกที่เหมาะสำหรับสาวๆ เพราะเป็นสร้อยที่ดีไซน์สวยงามแปลกตา แต่งเติมลวดลายและสีสันลงไป ให้ความพิเศษในสไตล์แคนาดา เหมาะสำหรับสาวแฟชั่นนิสต้าตัวจริง

bottom of page