
HOTLINE: +6684 522 2429
+6661 156 5453
Your Smile, Our Inspiration
รับจัดกรุ๊ปทัวร์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ,
กรุ๊ปเหมาหมู่คณะหรือส่วนตัว, ดูงานสัมมนา,
อีเว้นท์ (Event), จัดกิจกรรมนอกสถานที่ Walk Rally
รังสรรค์งานโดยทีมงานมืออาชีพ


เมืองกรุงโรม(Rome) หรือ โรม่า(Roma)
เมืองหลวงของประเทศอิตาลีนั้นเป็นเมืองในฝันสำหรับหลายๆ คนที่อยากจะไปเที่ยวชมเมืองที่งดงามไปด้วยสถาปัตยกรรมแบบโรมัน แถมเป็นเมืองที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ของกลิ่นอายทางประวัติศาสตร์มากมายที่น่าสนใจ วันนี้เราจึงมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ 15 แห่งที่พลาดไม่ได้เด็ดขาดหากมีโอกาสไปเยี่ยมชมกรุงโรมเมื่อมาถึงเมืองโรมสถานที่ท่องเที่ยวแรกที่ควรจะไปคือที่

Colosseum
เป็นโรงสนามกีฬากลางแจ้งชื่อดังขนาดใหญ่ใจกลางกรุงโรม ที่ในอดีตนั้นเป็นสนามประลองที่แสนโหดเหี้ยมของเหล่ากลาดิเอเตอร์ โดยมากแล้วนั้นอย่างที่ทราบกันดีว่าโรมันนั้นนิยมการประลองเพื่อความแข็งแกร่งเช่น ประลองกับสัตว์ดุร้าย การประลองของนักโทษเพื่อแลกกับอิสรภาพและความมั่งคั่ง สิ่งเหล่านี้เราเคยอ่านในนิยาย แต่สถานที่แห่งนี้จะพาคุณไปเห็นสนามประลองของจริง ที่มีทั้งคุกใต้ดิน กรงขังสัตว์ดุร้ายที่ใช้ในการประลอง เป็นสถานที่ที่จะเห็นถึงความยิ่งใหญ่ แข็งแกร่ง และที่นี่ยังได้รับการคัดเลือกจากองค์กร New 7 Wonders ให้เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกอีกด้วย

Roman Forum
เมื่อมาชม Colosseum แล้วก็ไม่ควรพลาด Roman Forum เศษซากปรักหักพังอันเป็นหลักฐานของความเจริญรุ่งเรืองในอดีตของยุคโรมัน เนื่องด้วยตั๋วบัตรเข้าชม Roman Forum นั้นเป็นใบเดียวกับ Colosseum

Palatine Hill
และอีกสถานที่ที่มาและไม่ควรพลาด Palatine Hill เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ใช้บัตรเข้าชมใบเดียวกันกับ Colosseum และ Roman Forum ที่นี่เป็นเนินเขาที่เดินต่อมาจาก Roman Forum มีหลายโซนที่น่าสนใจให้เยี่ยมชม โดยเป็นอีกที่หนึ่งที่บ่งบอกถึงความรุ่งเรืองของโรมันในอดีต อาคารบางแห่งบนเนินเขานี้นั้นบางที่ยังคงรักษาความสมบูรณ์ไว้ได้ค่อนข้างมาก ยังสามารถเห็นจิตรกรรมฝาผนังโมเสกได้ และที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของถ้ำที่เป็นที่อาศัยของสุนัขและฝาแฝดที่สร้างโรมในตำนาน และยังเป็นจุดชมวิวที่สวยงามของ Roman Forum อีกด้วย

Saint Peter’s Basilica
เราจะพาทุกท่านไป Saint Peter’s Basilica หรือวิหารนักบุญเปโตร หนึ่งในมหาวิหารเอกของคริสตจักรโรมันคาทอลิกแห่งกรุงโรม เป็นสิ่งก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดของนครรัฐวาติกัน สถานที่ที่มีความศักดิ์สิทธิ์มากสำหรับโรมันคาทอลิก เป็นสถานที่ฝังศพของนักบุญเปโตรบิชอปคนแรกแห่งกรุงโรม และพระสันตะปาปาองค์สำคัญอื่นๆ อีกด้วย

Saint Peter’s Square
สถานที่ต่อไปที่น่าไปคือ Saint Peter’s Square จัตุรัสสวยงามด้านหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมอันงดงามแบบโรมนะ มีเสาโอเบลิคเสาที่สร้างขึ้นในอียิปต์ตั้งตระหง่านตรงกลาง ล้อมรอบด้วยเสาหินหลายสิบต้น และมีน้ำพุอยู่ที่ที่สองข้างของจัตุรัส

Castel Sant’Angelo
แล้วถ้ามาทั้งทีจะพลาดสถานที่นี้ไปได้ไง Castel Sant’Angelo หรือสุสานของเฮเดรียน อีกหนึ่งสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์แห่งกรุงโรมที่มีสะพานสวยงามเชื่อมจาก Peter’s Square เนื่องด้วยที่นี่ครั้งหนึ่งได้ถูกพระสันตะปาปาใช้เป็นป้อมปราการสำหรับหลบภัย ในปัจจุบันนั้นที่นี่เป็นหนึ่งในอาคารที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์แห่งชาติโรม

Pantheon
เป็นวิหารที่เก่าแก่ของกรุงโรมที่จัดได้ว่าเป็นสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังคงรักษาความดั้งเดิมไว้ได้ค่อนข้างมากของกรุงโรม อาคารนี้สวยงามตั้งแต่ภายนอกอาคารที่มีเสาหลายเสาเรียงรายหลายสิบต้น ซึ่งเสาแต่ละเสานั้นเป็นหินก้อนเดียวทั้งต้นอีกด้วย จุดเด่นของอาคารแห่งนี้คือความประณีตในการออกแบบของสถาปนิกในอดีต ที่โดดเด่นคือ Oculus หรือดวงตาสวรรค์ ซึ่งเป็นช่องตรงกลางโดมที่แสงสามารถผ่านเข้ามาได้อันเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่

Trevi Fountain
สถานที่นี้ก็น่าไปไม่แพ้กันTrevi Fountain น้ำพุชื่อดังของกรุงโรมที่นักท่องเที่ยวล้วนให้ความสนใจ เพราะนอกจากความยิ่งใหญ่และสวยงามแล้ว ยังมีความเชื่อและธรรมเนียมที่ปฏิบัติกันมาของน้ำพุแห่งนี้คือ ถ้าหากอธิษฐานแล้วหันหลัง โยนเหรียญข้ามไหล่ซ้ายลงไปใต้น้ำพุนี้ได้ จะได้กลับมาที่กรุงโรมอีกครั้ง

Spanish Steps
และอีกสถานที่ที่สวยงามของในเมืองโรมSpanish Steps บันไดที่กว้างและยาวที่สุดในยุโรปที่อยู่ไม่ไกลจาก Pantheon และ Trevi Fountain ที่นอกจากความสวยงามและยิ่งใหญ่แล้วยังโด่งดังมาจากฉากในภาพยนตร์เรื่องดัง Roman Holiday อีกด้วย

Vatican Museum
พิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่ในนครรัฐวาติกันที่ภายในตกแต่งสวยงามตั้งแต่พื้นยันเพดาน เป็นแหล่งรวบรวมสมบัติเก่าแก่หลายร้อยปีของวัดคาทอลิก มีห้องที่น่าสนใจหลายห้อง และโดดเด่นด้วยมุมมหาชนอย่างบันไดวนอันสวยงามที่ถ้าหากขึ้นไปชั้นบน เมื่อมองลงมาจะเห็นบันไดหมุนเกลียวไล่ระดับชั้นครบทุกชั้นอย่างสวยงาม

Piazza Navona
สถานที่ต่อไปเราไปกันที่ Piazza Navona เป็น อีกหนึ่งจัตุรัสที่มีชื่อเสียงของกรุงโรมที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา มีน้ำพุสวยๆ หลายจุด มีร้านค้าร้านอาหารน่ารักๆ มีศิลปินมาแสดงโชว์ มีสินค้าอาร์ตๆ และงานศิลปะมากมายให้เลือกชมกันอีกด้วย

Campo de’ Fiori
และอีกสถานที่ที่ขขาดไม่ได้ Campo de’ Fiori เป็นย่าน Market ที่เป็นตลาดขายผัก ผลไม้สด ดอกไม้และสินค้าพื้นเมืองในตอนกลางวันและแหล่งสังสรรค์ยามค่ำคืน ที่นี่เป็นหนึ่งสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ด้วยเป็นลานประหารของบุคคลสำคัญอย่างบรูโนที่ถูกเผาทั้งเป็นที่นี่ตรงจุดที่มีอนุสาวรีย์ของเค้าตั้งอยู่นั่นเอง

Basilica di Santa Maria Maggiore
เป็นอีกหนึ่งมหาวิหารเอกของคริสตจักรโรมันคาทอลิกในกรุงโรม วิหารแห่งนี้มีตำนานสำหรับการก่อสร้างที่แสนมหัศจรรย์เกี่ยวกับหิมะในฤดูร้อน โดยเชื่อกันว่าวิหารนี้เกิดขึ้นด้วยความตั้งใจของพระแม่มารีที่ปรากฏตัวให้พระสันตะปาปาเห็นและทำการกำหนดจุดที่ต้องการสร้างด้วยการเนรมิตหิมะในฤดูร้อนเพื่อชี้จุดนั่นเอง

Capitoline Museum
พิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงโชว์เกี่ยวกับประติมากรรมชิ้นเอกต่างๆ ตั้งแต่สมัยยุคโรมันโบราณ ที่โดดเด่นด้วยการจัดอีเว้นท์มากมาย และหนึ่งในอีเว้นท์ที่สำคัญคือการจัดนิทรรศการแสดงโชว์อาวุธโรมันโบราณอันน่ตานตาตื่นใจ

National Rome Museum
และอีกสถานที่ที่ไปแล้วห้ามพลาด National Rome Museum แน่นอนว่าเสน่ห์ที่สำคัญอย่างหนึ่งของกรุงโรมคือเรื่องของประวัติศาสตร์และวัตถุทางโบราณคดี สถานที่แรกที่แนะนำจึงเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งชาติโรมอันเป็นแหล่งรวบรวมวัตถุทางโบราณคดีมากมายที่ถูกค้นพบในโรมตั้งแต่สมัยโรมันยุคโบราณกันเลยทีเดียว

เมืองเนเปิลส์ (Naples)
เมืองต่อไปก็คือเมือง เนเปิลส์ (Naples)เมืองหลวงแห่งแคว้นกัมปาเนียที่อยู่ทางตอนใต้ของอิตาลี เมืองเนเปิลส์เป็นสถานที่อันล้ำค่าสำหรับชื่นชมงานศิลปะและสถานที่ทางประวัติศาสตร์ รวมไปถึงเป็นเมืองที่มีบรรยากาศอันสดใสของร้านค้า ร้านอาหาร และย่านสถานบันเทิงยามค่ำคืน มีอาหารอิตาเลียนที่ผู้คนชื่นชอบมากมายอย่างเช่น พิซซ่า สปาเก็ตตี้หรือพิมมิจิน่าที่เมืองนี้ได้รับการยกย่องว่ามีส่วนประกอบที่สดใหม่จากท้องถิ่น ที่สำคัญนั้นเมืองนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอื่นๆ อยู่ในบริเวณใกล้เคียง เช่น อ่าวเนเปิลส์และเมืองโบราณที่เปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์และเหตุการณ์สุดสะเทือนใจอย่างเมือง Pompeii อีกด้วย

ย่านเมืองเก่า (Centro Storico Naples)
สถานที่นี้สวยมาก ย่านเมืองเก่า (Centro Storico Naples) เป็นเขตเมืองเก่า ที่มีสถาปัตยกรรมอสไตล์อาร์ตนูโว ที่รวมความเก่าแก่ไว้หลายๆ อย่าง ทั้ง โบสถ์ที่สวยงาม ปูด้วยกรวด มีอุโมงค์กรีกโบราณที่ทำให้เห็นประวัติศาสตร์ยุคก่อน และประติมากรรมที่หลายคนอาจไม่เคยเห็น ต้องลองมาเดินย่านนี้กันนะ

โบสถ์คัปเปลลา ซานเซเวโร (Capella Sansevero)
ต่อมา มาดูกับสถานที่ โบสถ์คัปเปลลา ซานเซเวโร (Capella Sansevero) เป็นโบสถ์ที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 16 รวบรวมผลงานทางศิลปะ ที่เกี่ยวข้องกับศาสนาของอิตาลี มีภาพวาดบนฝาผนังแสดงถึงเรื่องราวในศาสนาคริสต์ และประติมากรรมหินอ่อนที่หรูหรา ผู้คนมากมายในเมือง มักจะมาใช้สถานที่แห่งนี้เป็นที่สวดมนต์อธิษฐานเพื่อขอพร และเพื่อความสงบทางใจ

โบสถ์เจซูนูโอโว (Gesu Nuovo)
สถานที่นี้น่าสนใจในประวัติศาตร์อย่างมาก โบสถ์เจซูนูโอโว (Gesu Nuovo) โบสถ์แห่งนี้ เคยเป็นพระราชวังมาก่อนในปี 1470 ก่อนที่จะถูกเปลี่ยนใหม่ ให้กลายมาเป็นโบสถ์คริสต์ มีผลงานทางศิลปะ เพิ่มเข้ามาตลอดเวลา ทำให้มีสถาปัตยกรรมของพระราชวังที่ผสมกับศิลปะอันงดงาม สถาปัตยกรรมของที่นี่เป็นแบบกอธิคและบาโรก ภาพวาดบนาผนังจะบอกเล่าเรื่องราวทางศาสนาไว้ทั้งหมดได้อย่างน่าทึ่ง

ปราสาทริมทะเล (Ovo Castle)
สถานที่นี้วิวสวยน่าสนใจปราสาทริมทะเล (Ovo Castle) เป็นปราสาทในสมัยศตวรรษที่ 15 มีความสำคัญต่อชาวกรีกและชาวโรมัน ที่เข้ามาครอบครอบดินแดนนี้ จุดเด่นของปราสาทสร้างขึ้นด้วยหิน มีหอคอยคู่ตั้งอยู่ สถาปัตยกรรมที่สวยงามทำให้นักท่องเที่ยวเดินชมปราสาทได้โดยรอบ และยังมีพิพิธภัณฑ์เรื่องราวก่อนประวัติศาสตร์ให้ได้ศึกษา ปราสาทนี้เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ปราสาทไข่ ซึ่งเคยถูกนำไข่มาวางใต้ฐานปราสาท เชื่อว่าหากไข่ยังสมบูรณ์ ปราสาทจะไม่ถูกทำลาย

ปราสาท นูโอโว (Nuovo Castle)
ปราสาทในยุคกลางที่ถูกสร้างขึ้น มาในปี 1282 โดยสร้างด้วยหินทราย โดดเด่นด้วยซุ้มประตูทรงกลมสูงตั้งสง่า จนเป็นสัญลักษณ์แห่งสถาปัตยกรรมของเมือง ที่ถึงแม้จะได้รับการบูรณะ ปรับปรุงมาแล้วหลายครั้ง ก็ยังคงความงดงามเสมอ

จัสตุรัสปิแอสซาเพลบิสซิโต (Piazza del plebiscito)
สถานที่นี้ถ้าไม่ได้ไปถือว่าพลาดมาก จัสตุรัสปิแอสซาเพลบิสซิโต (Piazza del plebiscito) ที่นี่จัดได้ว่าเป็นหนึ่งในจัตุรัสที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของเมือง มีอาคารสำคัญที่ล้อมรอบอยู่จำนวนมาก โดยเฉพาะ พระราชวัง ซึ่งเคยเป็นที่พำนักของกษัตริย์ราชวงศ์บูร์บง และบริเวณพระราชวัง ยังมีถ้ำลึกลับให้เยี่ยมชม ซึ่งเคยเป็นสถานที่หลบภัยในสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วย

สุสานใต้ดินเซนต์เจนนาโร (San Gennaro)
เป็นสุสานในศตวรรษที่สอง ซึ่งเป็นสุสานโรมันซึ่งมีหลุมฝังศพอยู่ชั้นใต้ดิน ในศตวรรษที่ 15 รอบสุสานมีมหาวิหาร และสถาปัตกรรมที่งดงาม และภาพวาดรวมประวัติศาสตร์ต่างๆ ในสมัยนั้น สำหรับสุสานจะมีทั้งห้องใต้ดินขนาดเล็ก และสุสานที่อยู่ใต้มหาวิหารขนาดใหญ่

ซาน โดเมนิโก มัจจอเร (San Domenico Maggiore)
เป็นหนึ่งในโบสถ์ที่จัดว่าสวยงามที่สุดของเมือง สร้างขึ้นเมื่อ 1,300 ปีมาแล้ว ภายในมีความหรูหรา ประดับตกแต่งไว้อย่างโอ่อ่า สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับนักบุญโทมัสควีนาส นักท่องเที่ยว นิยมมาชมความสวยงามของโบสถ์นี้ ซึมซับบรรยากาศประวัติศาสตร์อันยาวนานสุดๆ

ซานตาลูชีอา (Santa Lucia)
เป็นย่านริมทะเล ที่เต็มไปด้วยร้านกาแฟ ร้านพิซซ่า ร้านอาหารทะเล รสเด็ดๆ ที่ใครได้มาลองจะต้องชอบ ทั้งซูชิ สปาเก็ตตี้ มีสตรีทฟู้ดให้เดินกินเพลินๆ ใกล้กับท่าจอดเรือ ทำให้มองเห็นวิวของอ่าวและภูเขาไฟ รวมถึงพระราชวังด้วย

โบสถ์ซานตา คีอารา (Santa Chiara)
เป็นโบสถ์ที่มีบรรยากาศสบาย ล้อมรอบด้วยสวนสาธารณะ และชาทะเล การออกแบบสีสันสดใส เสาแปดเหลี่ยมที่ล้อมรอบอาคาร และกระเบื้องที่สวยงาม ทำให้โบสถ์แห่งนี้มีการออกแบบที่น่าสนใจ และมีประวัติอันยาวนานมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17

พระราชวังหลวง (Cascade Royal Palace)
เป็นพระราชวัง ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเนเปิลส์ ทางตอนใต้ของอิตาลี เป็นทั้งพิพิธภัณฑ์ และสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ในอดีตใช้สถานที่นี้ ในการเป็นพระราชวังปกครองอาณาจักรเนเปิลส์และอาณาจักรทูชิชิลี มีการออกแบบที่เก่าแก่สวยงาม ต้องลองมาเยี่ยมชม จะได้บรรยากาศพระราชวังยุคเก่า

เมืองฟลอเรนซ์ (Florence)
อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศอิตาลี ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำอาร์โน เป็นเมืองร่ำรวยศิลปะ และเป็นบ้านของศิลปินเทพหลายๆ ท่าน เช่น ไมเคิลเองเจลโล, ลีโอนาโดดาวินชี่ นอกจากนี้เมืองฟลอเรนซ์ยังเป็นต้นกำเนิดของศิลปะเรเนสซองส์ จึงไม่แปลกเลยที่เมืองฟลอเรนซ์จะเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงทางด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก

หอศิลป์อุฟฟิซิ (Uffizi Gallery)
เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก่าที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุดในบรรดาพิพิธภัณฑ์ศิลปะในโลก ในหอศิลป์นี้มีงานสะสมมากมายจนต้องนำไปแสดงในพิพิธภัณฑ์อื่นๆ ในฟลอเรนซ์ ภายในปี ค.ศ. 2006 ทางหอศิลป์จึงมีโครงการที่จะขยายบริเวณแสดงงานเขียนเพิ่มขึ้นจาก 6,000 ตารางเมตร เป็นมากกว่าเท่าตัวคือเกือบ 13,000 ตารางเมตรเลยทีเดียว ในปัจจุบันหอศิลป์อุฟฟิซิเป็นสถานที่ยอดนิยมแห่งหนึ่งของนักท่องเที่ยว

อาสนวิหารฟลอเรนซ์
ชื่อเต็มว่า อาสนวิหารซันตามาเรียแห่งฟลอเรนซ์ (Cathedral of Santa Maria del Fiore) สร้างขึ้นในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 13 ออกแบบโดยฟีลิปโป บรูเนลเลสกี มีสถาปัตยกรรมแบบเรอเนซองส์-กอธิค ด้านหน้าโบสถ์ประดับตกแต่งด้วยหินอ่อนสีขาว เขียว และชมพู อาสนวิหารแห่งนี้ใหญ่เป็นลำดับที่ 4 ของทวีปยุโรป รองจากมหาวิหารนักบุญเปโตร อาสนวิหารฟลอเรนซ์แห่งนี้นับว่าแลนด์มาร์คอีกที่ในฟลอเรนซ์เเล้วเพราะความความงานและยิ่งใหญ่อลังการของวิหารนั่นเอง

หอคอยคอยนาฬิกา (Palazzo Vecchio)
สถานที่นี้วิวสวยมากๆหอคอยคอยนาฬิกา (Palazzo Vecchio) อยู่บริเวณจัตุรัสปิเอซ่า เดลลา ซินญอเรีย (Piazza della Signoria) เป็นหอคอยสูงที่สามารถขึ้นไปชมวิวเมืองฟลอเรนซ์ได้แบบ 360 องศา นักท่องเที่ยวที่มาผ่านมาเมืองฟลอเรนซ์ (Florence) ต้องเห็นหอคอยและได้ถ่ายรูปกลับไปอย่างแน่นอน

จัตุรัสซินญอเรีย (Piazza Della Signoria)
นี้มีลักษณะเป็นรูปตัวเเอลอยู่ใจกลางเมืองฟลอเรนซ์ จะเเวดล้อมไปด้วยอาคารเเละสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสำคัญมากมายที่มีความเก่าเเก่สวยงาม ของศิลปินเอกชาวอิตาเลี่ยนมากมายมาตั้งรวมกันอยู่ จนมีคนกล่าวว่ามันเหมือนกับเเกลลอรี่กลางเเจ้งที่ใหญ่ที่สุดใน

มหาวิหารซานตาโกรเซ (Basilica of Santa Croce)
เป็นวัดบาซิลิกาชั้นรองของนิกายโรมันคาทอลิก อีกหนึ่งศาสนสถานที่มีความเก่าเเก่ สวยงาม เต็มไปด้วยงานศิลปะมากมาย โดยมหาวิหารซานตาโกรเซเป็นโบสถ์ของนิกายฟรานซิสกันที่นับว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ทำให้นักท่องเที่ยวมากมายนิยมมาเที่ยวชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมของวิหารแห่งนี้

สะพานเวคคิโอ (Ponte Vecchio)
สถานที่นี้ถ้าไม่ได้ไปคงเสียดายน่าดู สะพานเวคคิโอ (Ponte Vecchio) เป็นสะพานอันเก่าแก่ที่เป็นแหล่งการค้าที่สำคัญของเมืองฟลอเรนซ์ เราสามารถชมทัศนียภาพของแม่น้ำอาร์โนจากมุมบนสะพานและถ่ายรูปภาพกลับไปเป็นที่ระลึกได้อย่างแน่นอนภายในสะพานจะเต็มไปด้วยร้านค้าที่ขายอัญมณีมากมาย รวมไปถึงของฝากต่างๆ นอกจากนี้ยังมีนักแสดงศิลปินมากมายที่สร้างความสนุกสนานให้กันตลอดทาง ทำให้สะพานเวคคิโอมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวตลอดปี

พระราชวังปิตติ (PALAZZO PITTI)
พระราชวังแห่งนี้ จัดได้ว่าใหญ่ที่สุดในเมืองฟลอเรนซ์ มีความอลังการของตัวอาคาร ที่มีสถาปัตยกรรมงดงาม และเก่าแก่ ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1475 ภายในพระราชวัง รวมผลงานภาพวาด ศิลปะ รูปปั้น สิ่งของเครื่องใช้ เครื่องประดับของชนชั้นสูงไว้มากมายกว่า 6,000 ชิ้น ปัจจุบัน พระราชวังก็เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้เยี่ยมชมด้วย

หอศีลจุ่ม เซนต์จอห์น (THE BAPTISTERY OF ST. JOHN)
The Baptistery of St. John เป็นหอศีลจุ่มฟลอเรนซ์ รูปทรงแปดเหลี่ยม ตั้งอยู่กลางจตุรัสเดลดูโอโม (Piazza del Duomo) ตรงกันข้ามกับมหาวิหารฟลอเรนซ์ (Florence Cathedral) มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม คลาสสิก น่ามาถ่ายรูปสุดๆ
