top of page

Poland

โปแลนด์

1. Royal Castle

Royal Castle หรือพระราชวังหลวง ตั้งอยู่ในโซนเมืองเก่า (Old Town) โดยโซนนี้เป็นโซนที่ถูกบูรณะขึ้นใหม่จากภาพวาดพิมพ์เขียวของศิลปินชื่อดังในยุคสมัยนั้นที่รอดพ้นจากการทำลายล้างในช่วงสงคราม สถาปัตยกรรมต่าง ๆ ในโซนเมืองเก่ารวมถึงพระราชวังแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นอีกครั้งโดยยังคงรูปแบบแบบเดิมตามภาพวาดนั้น ทำให้กรุงวอร์ซอได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 1980 วัตถุสิ่งของบางอย่างในพระราชวังเป็นของจริงที่ถูกรวบรวมไว้และนำมาจัดแสดงให้นักท่องเที่ยวได้ชมกัน เพื่อน ๆ สามารถรับชมตัวอย่างภาพวาดพิมพ์เขียวที่เป็นต้นแบบในการบูรณะเมืองใหม่ได้ และภายในปราสาทก็ยังมีนิทรรศการภาพวาดเล็ก ๆ จากศิลปินชื่อดังในอดีตให้ชมอีกด้วย

351.jpg

2. เหมืองเกลือวิเอลิคชกา (Wieliczka Salt Mine)

เหมืองแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองวิเอลิคชกา (Wieliczka) ในเขตเมืองคราเคา เหมืองเกลือวิเอลิคชกาจัดเป็นเหมืองเกลือที่มีอายุเก่าเเก่ที่สุดของโลก และยังได้ขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกของ UNESCO ในปี 1978 อีกด้วย ความน่าสนใจของเหมืองแห่งนี้คือมีอุโมงค์ภายในเหมืองที่มีความยาวกว่า 300 กิโลเมตร แต่เส้นทางเดินชมเหมืองของนักท่องเที่ยวจะอยู่ที่ประมาณ 3 กิโลเมตรเท่านั้น ที่นี่จะมีไกด์เป็นคนนำเที่ยวเพื่อป้องกันอันตรายต่าง ๆ และป้องกันการหลงทางภายในเหมืองด้วย การเดินชมเหมืองนั้นจะเดินชมตามลำดับชั้นลงไปเรื่อย ๆ โดยมีทั้งสิ้น 9 ชั้น จนถึงส่วนที่ลึกที่สุดของเหมืองซึ่งมีความลึกเทียบเท่าตึกกว่า 40 ชั้น ภายในเหมืองเกลือนี้จะได้พบกับงานแกะสลักรูปปั้นต่าง ๆ การจำลองการขุดเหมือง และห้องโถง เหมืองแห่งนี้ยังมีทั้งโบสถ์ วิหาร และทะเลสาบที่สร้างขึ้นจากเกลืออยู่ภายในด้วย เหมืองเกลือวิเอลิคชกาเป็นเหมืองที่แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาของเทคโนโลยีต่างๆ ตั้งแต่สมัยเหมืองแร่จนถึงเทคโนโลยีสมัยใหม่ เราขอรับรองเลยว่าเหมืองเกลือแห่งนี้จะทำให้เพื่อนๆ รู้สึกตื่นตาตื่นใจและคุ้มค่ากับการไปเยือนโปแลนด์แน่นอน

352.jpg

3. ค่ายกักกันเอาชวิทซ์ – เบียร์เคเนา (Auschwitz Concentration Camp)

ค่ายกักกันเอาชวิทซ์ – เบียร์เคเนาเป็นค่ายกักกันของนาซีที่สร้างขึ้นในปี 1940 ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ที่นี่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมในปี ค.ศ.1979 ค่ายกักกันเอาชวิทซ์ – เบียร์เคเนาจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก ๆ คือ ค่ายเอาชวิทซ์และค่ายเบียร์เคเนา โดยจะมีรถรับส่งฟรีระหว่าง 2 ส่วน ภายในตึกต่าง ๆ จะจัดแสดงสิ่งของเครื่องใช้ของชาวยิวที่ถูกจับตัวมาในสมัยนั้นรวมกว่า 20 ตึกด้วยกัน มีทั้งกระเป๋าเดินทาง รองเท้า แปรงสีฟัน หวี และเส้นผมของเหยื่อที่ตายที่ว่ากันว่ามีน้ำหนักรวมกันกว่า 2,000 กิโลกรัม ภายในยังมีการเปิดให้ชมห้องต่าง ๆ ทั้งห้องนอน ห้องน้ำ ห้องเผาศพ รวมถึงห้องที่ชาวยิวถูกสังหารหมู่ด้วยแก๊สพิษอีกด้วย ถึงแม้ว่าการมาเที่ยวที่นี่อาจจะไม่ได้สนุก น่าตื่นเต้นเร้าใจหรือโรแมนติกเหมือนสถานที่อื่น ๆ แต่ที่นี่ถือเป็นสถานที่สำคัญที่จะทำให้นักท่องเที่ยวได้ตระหนักถึงความโหดร้ายของสงครามที่ไม่ได้สร้างความสุขให้แก่ใครเลย

353.jpg

4. มหาวิหารวาเวล (Wawel Cathedral)

มหาวิหารวาเวลมีสถาปัตยกรรมแบบโกธิก สร้างขึ้นตามพระบัญชาของพระเจ้าคาซิมีร์ที่ 3 ในศตวรรษที่ 14 ปัจจุบันเป็นที่เก็บเชอร์เปียส ดาบในพิธีบรมราชาภิเษกของกษัตริย์โปแลนด์ ซึ่งเป็นราชสมบัติเพียงชิ้นเดียวที่เหลืออยู่ของราชสกุลกษัตริย์โปแลนด์ที่การเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี

354.jpg

5. ทะเลสาบมอร์สเกี๊ยะโอโกะ (Morskie Oko)

ทะเลสาบมอร์สเกี๊ยะโอโกะ (Morskie Oko) หรือ Sea Eye ที่ได้ชื่อนี้เพราะทะเลสาบแห่งนี้สวยงามราวกับดวงตาของท้องทะเล ทะเลสาบมอร์สเกี๊ยะโอโกะเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในเขตเทือกเขาทาทรา (Tatra) ตั้งอยู่ในหุบเขารือบีโบตก (Rybi Potok) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเขตอุทยานแห่งชาติทาทรา (Tatra National Park) ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 1993 ในบริเวณทะเลสาบแห่งนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ครบครันทั้งห้องน้ำและร้านอาหาร ใครที่ชื่นชอบวิวทิวทัศน์ธรรมชาติหรืออยากถ่ายรูปท่ามกลางหิมะและหุบเขาขาวโพลนราวกับหลุดมากจากเทพนิยายบอกเลยว่าห้ามพลาดการมาเที่ยวชมทะเลสาบมอร์สเกี๊ยะโอโกะเด็ดขาด ไฮไลท์ของที่นี่ในช่วงฤดูร้อนคือกิจกรรมเดินป่า ปีนเขา ปั่นจักรยาน หรือล่องเรือ ส่วนในช่วงฤดูหนาวที่หิมะปกคลุมภูเขาจนทั่วแล้ว กิจกรรมยอดนิยมก็หนีไม่พ้นสกีหรือสโนว์บอร์ดนั่นเอง

355.jpg
bottom of page