top of page

USA

สหรัฐอเมริกา

เมืองนิวยอร์ก (New York)

นิวยอร์ก นับเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดฮิตและเมืองในฝันของใครหลายคน เพราะนอกจากจะเป็นแหล่งรวมเศรษฐกิจ ธุรกิจ แฟชั่น และการศึกษาแล้ว นิวยอร์กยังเป็นสวรรค์ของนักช้อปและเต็มไปด้วยที่เที่ยวน่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เทพีเสรีภาพ, ไทม์สแควร์, สวนสาธารณะ, เซ็นทรัลพาร์ค, The Vessel Hudson Yards, สะพานบรูคลิน, ตึกเอ็มไพร์สเตท, น้ำตกไนแองการาและจุดเช็กอินอื่น ๆ ที่คุณไม่ควรพลาดในการมาโพสท่าถ่ายรูปชิค ๆ และสัมผัสด้วยตาของคุณเองสักครั้ง บอกเลยว่าใครที่ได้มาสัมผัสที่แห่งนี้แล้วจะรู้เลยว่ามหานครที่ไม่เคยหลับใหลเป็นอย่างไร

อนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ.jpg

ต้องบอกว่า แทบไม่มีใครไม่รู้จักอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ เพราะถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญของอเมริกา และเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญของโลกอีกด้วย เพราะเป็นสิ่งที่ทางฝรั่งเศสได้ทำขึ้นเพื่อมอบให้สหรัฐอเมริกาเนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบวันชาติ 100 ปี ที่ได้ประกาศอิสรภาพจากประเทศอังกฤษในปี ค.ศ.1886 โดยเทพีเสรีภาพนั้นสร้างขึ้นด้วยโลหะสำริด บนศีรษะสวมมงกุฎ 7 แฉก หมายถึง 7 ทวีป 7 คาบสมุทร มือขวาถือคบเพลิง มือซ้ายถือแผ่นจารึกคำประกาศอิสระภาพ ตั้งสูงเด่นเป็นสง่าอยู่ที่เกาะลิเบอร์ตี้ บริเวณอ่าวนิวยอร์ก และในภายหลังยังได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1984

ตึกเอ็มไพร์สเตท ตึกสูงอีกหนึ่งสัญลักษณ์แห่งนิวยอร์ก ที่เรามักจะคุ้นหน้าคุ้นตาอยู่ในภาพยนตร์หลายต่อหลายเรื่อง อย่างเช่น King Kong เป็นต้น เป็นอาคารยุคบุกเบิกที่เคยเป็นอาคารที่สูงที่สุดในโลกในช่วงปี ค.ศ.1931-1970 บนความสูงถึง 1,453 ฟุต เราสามารถมองเห็นตึก Empire State ได้จากหลายมุมของนิวยอร์ก และยังสามารถขึ้นไปชมวิวบนมุมสูงของตึก มองเห็นมหานครอันกว้างใกญ่เป็นวิวพาโนรามาแบบไม่มีอะไรบดบัง โดยสามารถจองคิวเพื่อขึ้นไปได้โดยสามารถเข้าชมได้ฟรี

ตึกเอ็มไพร์สเตท.jpg
Central Park.jpg

Central Park สวนสาธารณะใจกลางกรุงนิวยอร์ก ที่ถือเป็นปอดขนาดใหญ่ของเมืองนี้ เป็นสวนสาธารณะที่มีอาณาบริเวณกว้างใหญ่ ที่กว้างถึง 2,132 ไร่ เต็มไปด้วยบรรยากาศของต้นไม้เขียวชอุ่ม และสถานที่สำหรับพักผ่อนหย่อนใจมากมาย เรียกได้ว่าไปเดินเล่นทุกวันก็สามารถเปลี่ยนมุมเดินเล่นทุกวันได้ไม่ซ้ำ สามารถวางแผนกิจกรรมในการพักผ่อนได้หลากหลาย เช่น ปั่นจักรยาน พายเรือ วิ่งออกกำลังกาย หรือแค่มานั่งพักผ่อนเฉยๆ สูดอากาศดีให้เต็มปอด นั่งมองอะไรเพลินๆ แค่นี้ก็สุขแล้ว

ย่านไทม์สแควร์ ย่านคึกคักของมหานครนิวยอร์ก ศูนย์รวมห้างสรรพสินค้าและความบันเทิงครบครัน ใครขอบอารมณ์แบบในเมืองต้องไม่พลาดมาเดินเล่นที่ Time Square เพราะที่นี่มีอะไรน่าสนใจมากมาย โดยมีตึก Times ที่เป็นที่ตั้งของสำนักหนังสือพิมพ์ New York Times , มีถนนช้อปปิ้งแบรนด์ดังให้มาเดินละลายทรัพย์กันอย่างจุใจ หรือจะเปลี่ยนบรรยากาศมาลองชมโรงละครบรอดเวย์ ก็เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ดีๆ ที่นิวยอร์กที่น่าลอง

ย่านไทม์สแควร์.jpg
ย่านวอลล์สตรีท.jpg

ย่านวอลล์สตรีท ก็เป็นอีกหนึ่งย่านน่าเดินเล่นในนิวยอร์ก ย่านนี้จะได้ฟีลคลาสสิคๆ ประมาณผู้ดีใส่สูท ไม่เหมือนกับไทม์สแควร์ที่จะดูทันสมัยกว่า ซึ่งจะเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญทางการเงินของนิวยอร์ก ถือว่าเป็นย่านเศรษฐกิจสำคัญมาก มีห้องนิรภัยเก็บทองไว้ใต้ดิน มีตลาดหุ้นที่ใหญ่ที่สุดในโลก และยังมีองค์กรต่างๆ ตั้งอยู่ในย่านนี้ด้วยเช่นกัน ถือเป็นการเดินเล่นเปิดหูเปิดตา เก็บภาพตึกสวยๆ และเก็บเกี่ยวบรรยากาศรอบๆ เป็นอีกประสบกาณ์ดีๆ กลับไป

มุมนี้เอาใจขาช้อป ใครชอบช้อปปิ้งแนะนำมาที่ฟิฟท์ อเวนิว เตรียมเงินมาให้พร้อม เพราะบอกเลยว่าได้ละลายทรัพย์กันแบบจุใจแน่ๆ ที่นี่จะได้ฟีลหรูหราไฮโซและเต็มไปด้วยแหล่งช้อปปิ้งแบรนด์ดังๆ หรูๆ แบบจัดเต็ม ทั้ง Louis Vuitton, Gucci, Fendi, Prada, Bulgari เป็นต้น และห้างสรรพสินค้าระดับหรูหราก็รวมตัวอยู่ที่นี่เช่นกัน และยังได้เพลินตาเพลินใจไปกับความคลาสสิคของตึกใหญ่ ที่มีดีเทลการประดับตกแต่งที่เรียบหรูดูดี สามารถถ่ายภาพเก็บบรรยากาศแบบนี้เอาไว้ได้ทุกมุม

ฟิฟท์ อเวนิว.jpg
สะพานบรูคลิน.jpg

สะพานบรูคลิน อีกหนึ่งจุดที่ไม่ได้มาเช็คอินถือว่าพลาด เพราะเป็นสะพานแขวนชื่อดังระดับโลก เป็นสะพานที่เก่าแก่ที่สุดของอเมริกาที่ใช้เวลาในการก่อสร้างยาวนานถึง 14 ปี โดยเป็นสะพานที่สร้างขึ้นมาเชื่อมระหว่างเกาะแมนฮัตตัน และฝั่งบรูคลิน ข้ามผ่านแม่น้ำอีสต์ และมีความยาวถึง 1,825 เมตร และความไม่ธรรมดาคือ สะพานชั้นล่างเป็นถนนรถวิ่ง 6 เลน และชั้นบนเป็นทางจักรยานและสามารถเดินเช่นชมวิวได้ชิลล์ๆ เหนื่อยจากการเดินเล่นบนสะพาน ก็ยังมีสวนสาธารณะบรูคลินอยู่ใกล้ๆ สามารถไปพักผ่อนหย่อนใจกันได้

นิวยอร์กเค้าให้ความสำคัญกับสวนสาธารณะควบคู่ไปกับเมืองใหญ่จริงๆ เพราะนอกจากจะมีสวนสาธารณะขนาดใหญ่แล้ว ก็ยังมีสวนสาธารณะลอยฟ้าอีกด้วย ซึ่ง The High Line นี้ จะเป็นเหมือนสวนสาธารณะเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บริเวณทางรถไฟลอยฟ้า ซึ่งเมื่อก่อนที่แห่งนี้จะเป็นทางรถไฟสำหรับให้รถวิ่งขนของพวกสินค้าต่างๆ และพอหลังจากยกเลิกใช้รถไฟเดินทางในเส้นทางนี้แล้ว ก็ไม่ได้ปล่อยทิ้งร้างให้เปล่าประโยชน์แต่อย่างใด กลับทำให้มีชีวิตชีวาขึ้นมาด้วยต้นไม่ดอกไม้เล็กๆ ให้มาเดินเล่นพักผ่อนได้ พร้อมกับเห็นความคลาสสิคจากรางรถไฟเก่า และเห็นวิวรอบๆ จากมุมสูงได้ด้วย

สวนสาธารณะลอยฟ้า.jpg
One World Trade Center หรือ Freedom Tower.jpg

สำหรับใครที่อยากไปสัมผัสและเห็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติก็ต้องไม่พลาดที่จะปักหมุดเดินทางไปที่แอริโซนาแห่งนี้ โดยจุดเด่นของเมืองนี้คือลักษณะภูมิประเทศที่ถูกโอบล้อมไปด้วยภูเขาแทบทุกด้าน พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นทะเลทราย และมีที่เที่ยวน่าสนใจมากมาย เช่น แกรนด์แคนยอน แอนเทโลปแคนยอน ที่เลื่องลือในความงดงามของธรรมชาติและเป็นที่น่าสะดุดตาของใครหลายคน อีกทั้งยังสามารถชมฟอสซิลไดโนเสาร์และไม้ที่กลายเป็นหินอายุเก่าแก่กว่า 200 ล้านปีได้อย่างเต็มตา บอกเลยว่าใครที่เป็นสายเที่ยวแนวลุยแบบผจญภัยก็ต้องไปเยือนรัฐนี้ให้ได้สักครั้ง

จากอดีตตึก World Trade Center เป็นตึกแฝดที่ตั้งโดดเด่นอยู่คู่กัน หลังจากเหตุการณ์ 911 ทำให้เหลือเพียง  One World Trade Center หรือ Freedom Tower แม้จะไม่มีอีกตึกอยู่เคียงคู่ ที่ถูกสร้างขึ้นมาให้ฟื้นคืนชีวิตกลับมาอีกครั้งด้วยรูปทรงแปลกตา และล้อมรอบด้วยกระจกสะท้อนแสงอาทิตย์ให้ดูโดดเด่น สามารถขึ้นลิฟท์ความเร็วสูงเพื่อขึ้นไปชมวิวด้านบน มองเห็นวิวนิวยอร์กได้ไกลสุดลูกหูลูกตา ทั้งสะพานบรูคลิน เทพีเสรีภาพ น่าตื่นตาตื่นใจที่สุด และเมื่อมาถึงที่นี่อย่าลืมแวะไปชมอดีตตึกแฝดที่กลายเป็น Ground Zero น้ำตกรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ที่สลักชื่อผู้เสียชีวิตเอาไว้ มีพิพิธภัณฑ์ National September 11 Memorial & Museum บอกเล่าเรื่องราวของเหตุการณ์ที่ผ่านมา

แอริโซนา.jpg
แคลิฟอร์เนีย.jpg

หากพูดถึงแคลิฟอร์เนีย ก็ต้องบอกเลยว่าที่แห่งนี้ได้ถูกจัดให้เป็นที่พักผ่อนตากอากาศที่ดีที่สุด เพราะถือเป็นรัฐที่มีครบทุกอย่างของการท่องเที่ยว ทั้งที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแนวธรรมชาติ สิ่งก่อสร้าง หรือแหล่งช้อปปิ้งแล้ว แคลิฟอร์เนียยังรวบรวมแลนด์มาร์กชื่อดังไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น อุทยานแห่งชาติโยเซมิตี (Yosemite National Park), สะพานโกลเดนเกต (Golden Gate Bridge), ทะเลสาบทาโฮ (Lake Tahoe), ดิสนีย์แลนด์ (Disneyland) รวมถึงฮอลลีวูดไซน์ (Hollywood Sign) ที่ถือเป็นสัญลักษณ์อันสำคัญของแคลิฟอร์เนีย นอกจากนี้คุณยังสามารถดื่มด่ำไปกับบ้านเมืองที่ดูเป็นระเบียง สะอาด และทันสมัย

เดินทางไปเช็กอินกันต่อที่หลุยเซียนา รัฐที่คุณสามารถไปท่องเที่ยวและฉีดวัคซีนได้อย่างฟรี ๆ โดยที่เที่ยวยอดนิยมส่วนใหญ่ของรัฐนี้จะตั้งอยู่บริเวณรอบเมืองนิวออร์ลีน ที่ถือเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมครีโอล ทำให้ผู้คนต้องหลงใหลในมนต์เสน่ห์ที่น่าค้นหา ชาวเมืองใช้ชีวิตกันแบบเรียบง่ายสบาย ๆ ไม่เร่งรีบ แถมบรรยากาศเมืองโดยรอบยังมีสถาปัตยกรรมล้ำค่า สไตล์ฝรั่งเศสและสเปนให้เราได้ชื่นชมกันอีกด้วย ที่สำคัญใครที่อยากศึกษาเรื่องราวสมัยยุคก่อนประวัติศาสตร์ก็สามารถเช็กอินตามพิพิธภัณฑ์ทั่วไปต่าง ๆ ได้อีกเช่นกัน

หลุยเซียนา.jpg

เมืองแมรีแลนด์

แมรีแลนด์ เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยความน่าสนใจมากมาย โดยมีแอนแนโพลิส เป็นเมืองหลวง ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของกรุงวอชิงตัน ดีซี ซึ่งรัฐนี้ก็เป็นรัฐที่มีผู้คนต่างเชื้อชาติอาศัยอยู่กันเป็นจำนวนมาก ทำให้นักท่องเที่ยวสัมผัสได้ถึงความหลากหลายของการใช้ชีวิต และภาษา รวมถึงวัฒนธรรมที่แตกต่างกันออกไป โดยที่เที่ยวแนะนำในรัฐนี้มีทั้งอุทยานแห่งรัฐคันนิงแฮมฟอลส์, บัล Inner Harbor หรือการไปพักผ่อนหย่อนใจกันที่ทะเลสาบห้วยลึก สถานที่ที่คุณสามารถทำกิจกรรม และพักผ่อนหย่อนใจกันได้อย่างเต็มเปี่ยม

บัล Inner Harbor ท่าเรือภายในของบัลติมอร์เป็นแม่เหล็กสำหรับผู้เข้าชมเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวและสถานบันเทิงต่างๆ พื้นที่ทั้งหมดและละแวกใกล้เคียงเพิ่งกลับมาจากน้ำได้รับการพัฒนาอย่างดีกับสวนสาธารณะโรงแรมร้านอาหารร้านค้าพิพิธภัณฑ์และเรือประวัติศาสตร์ในการทัวร์ สำคัญที่สุดของเหล่านี้คือสลุบของสงคราม USS Constellationเรือแล่นเรือใบสามล้อที่เห็นการกระทำในสงครามกลางเมืองและสกัดกั้นเรือทาสนอกชายฝั่งแอฟริกัน ยังเปิดให้ไปท่องเที่ยวคือเรือดำน้ำ USS Torsk, สหรัฐอเมริกา Coast Guard Cutter เทนีย์, และ Lightship เชส. ล้อมรอบท่าเรือคือ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งชาติ; พิพิธภัณฑ์ศิลปะวิสัยทัศน์; และมือบน ศูนย์วิทยาศาสตร์แมริแลนด์, กับท้องฟ้าจำลอง Harborplace เป็นอาคารที่ทันสมัยทอดสมออยู่ตามศาลาล้อมรอบด้วยแก้วซึ่งมีร้านค้าร้านอาหารและอัฒจันทร์บนทางเดินเล่น

บัล Inner Harbor.jpg
อนุสรณ์สถานแห่งชาติ Fort McHenry.jpg

ในเขตวัฒนธรรมของ Mount Vernon ของบัลติมอร์พิพิธภัณฑ์ศิลปะวอลเตอร์สเป็นสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์และเป็นหนึ่งในเพียงไม่กี่สถาบันในโลกที่มีการจัดแสดงประวัติศาสตร์อันยาวนานของศิลปะโลก ครอบคลุมทุกสื่อศิลปะจากสหัสวรรษที่สาม B.C. จนถึงช่วงต้นศตวรรษที่ 20 คอลเลกชันที่แสดงและตีความอย่างสวยงามเป็นที่รู้จักกันดีในเครื่องประดับที่มีชื่อเสียงของพวกเขามีทั้ง enamels, ivories, bronzes และต้นฉบับที่ส่องสว่าง โบราณวัตถุโบราณของชาวอียิปต์, กรีก, โรมันและไบเซนไทน์มีความโดดเด่นเช่นเดียวกับคอลเลกชันงานศิลปะยุคกลางและยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา พิพิธภัณฑ์มีวัสดุแปลที่ดีสำหรับคนหนุ่มสาวในการสำรวจคอลเล็กชันของตน

อนุสรณ์สถานแห่งชาติ Fort McHenry เสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1803 เพื่อป้องกันทางเข้าท่าเรือที่วุ่นวายของเมืองบัลติมอร์ป้อม McHenry กลายเป็นไอคอนระดับชาติหลังจากประสบความสำเร็จในการโจมตี 24 ชั่วโมงโดยชาวอังกฤษในปีพ. ศ. 2357 ป้อมปราการที่ช่วยกันรักษาบัลติมอร์จากการยึดครองและเป็นแรงบันดาลใจให้กับฟรานซิสสก็อตคีย์ การโจมตีการเขียน แบนเนอร์ Star Spangled. คุณสามารถเดินไปตามกำแพงล้อมรอบสำรวจอาคารและดูการนำเสนอมัลติมีเดียเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของป้อมและเพลงชา

พิพิธภัณฑ์ศิลปะวอลเตอร์ส.jpg

เมืองโอเชียน

ชายหาดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งของชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก Ocean City มีชายหาดสาธารณะ 10 ไมล์และมีทางเดินไม้แบบคลาสสิกสามไมล์ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นประเทศที่ดีที่สุด ไปตามเส้นทางเดินเล่นยอดนิยมนี้ ได้แก่ ร้านค้า, ชิงช้าสวรรค์, รถไฟเหาะตีลังกา, a 1902 carouselและซุ้มขายอาหารที่มีตั้งแต่ไก่ทอด Delmarva ที่มีชื่อเสียงและเค้กปู Chesapeake Bay ไปจนถึงขนมเค้กน้ำเค็มและเค้กร้อนรถรางนำผู้เข้าชมระหว่างสถานที่ท่องเที่ยวและบนชายหาดเป็นคอนเสิร์ตฟรีภาพยนตร์และกิจกรรมยามค่ำอื่น ๆ เป็นประจำ พิพิธภัณฑ์สถานีช่วยชีวิตเมืองโอเชียน มีถังน้ำเค็มซึ่งคุณสามารถมองเห็นสัตว์ทะเลในท้องถิ่นได้

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งชาติ อาคารอันน่าทึ่งที่มองเห็นทิวทัศน์ของท่าเรือ Inner Harbor ของบัลติมอร์จะจำลองระบบนิเวศหลาย ๆ แห่งเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยของชีวิตทางทะเลจากทั่วทุกมุมโลกเช่นเดียวกับนกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมและชีวิตของพืชที่เหมาะสม ที่ใหญ่ที่สุดคือห้าชั้น ป่าฝนเขตร้อนซึ่งคุณสามารถสำรวจในระดับต่างๆเพื่อดูนกกบพืชและแม้แต่ sloths และลิง ที่อื่น ๆ ได้แก่ ปลาฉลามและปลาโลมารวมทั้งปลาเขตร้อนที่ยอดเยี่ยมในงาน Exhibit แนวปะการังในมหาสมุทรแอตแลนติก

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งชาติ.jpg
มิชิแกน.jpg

เดินทางไปกันต่อที่รัฐมิชิแกน จุดหมายปลายทางที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหลากหลายของภูมิประเทศ มีทั้งธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็น ทะเลสาบ ภูเขา เนินทราย ตลอดไปจนถึงพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมเรื่องราวน่าสนใจเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไว้อย่างมากมาย บรรยากาศส่วนใหญ่ภายในเมืองออกแนวยุโรป ผู้คนน่ารัก เป็นกันเอง และมีอัธยาศัยที่ดี อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีความเงียบสงบ เหมาะสำหรับการไปพักผ่อน และตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายในตัวเมืองเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

เกาะ Mackinac มีลักษณะเป็นช่วงที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และเป็นวิถีชีวิตที่เรียบง่ายก่อนที่รถยนต์และรถประจำทาง ผู้เข้าชมสามารถขึ้นเรือข้ามฟากไปยังเกาะและใช้เวลาทั้งวันเดินผ่านร้านค้าในเมืองเก่าไปเที่ยวเกาะด้วยรถม้าหรือเดินป่า Fort Mackinac. เปิดในปีพศ. สะพาน Mackinac Bridge เชื่อมต่อคาบสมุทรตอนล่างที่ Mackinaw City ไปยัง Upper Peninsula ที่ St. Ignace หนึ่งในช่วงการระงับที่ยาวที่สุดในโลกจะช่วยลดการสำรองข้อมูลของยานพาหนะที่รอเรือเฟอร์รี่ข้ามช่องแคบ พิพิธภัณฑ์ Mackinac Bridge มีสิ่งประดิษฐ์ที่น่าสนใจและเป็นต้นฉบับจำนวนมากจากการสร้าง Mighty Mac

สวนประติมากรรมและสวน Frederik Meijer.jpg

สวนสัตว์ดีทรอยต์มีสัตว์หลายชนิดที่น่าประทับใจมากมายหลายแห่งทั่วโลก สัตว์แอฟริกันอาศัยอยู่ในป่าหรือที่อยู่อาศัยทุ่งหญ้าและรวมทุกอย่างจาก aardvark เพื่อม้าลายกับรายการโปรดของครอบครัวจำนวนมากเช่นยีราฟสิงโต lemurs และบิชอพหลาย ที่อยู่อาศัยขั้วโลกเหนือเป็นที่ตั้งของหมีขั้วโลกที่มีชื่อเสียงของสวนสัตว์และ Australian Outback มีจิงโจ้ที่อาศัยอยู่สิบหกตัวและวอลลาบีสองตัว ป่าเอเชียที่แปลกใหม่มีหมีแพนด้าแดงและเสืออะมูร์ในขณะที่ที่อยู่อาศัยในอเมริกาเหนือมีสัตว์ที่น่าสนใจที่สุดในทวีปยุโรปเช่นหมีวูฟไรน์และนกอินทรีหัวล้าน สวนสัตว์ยังมีศูนย์รวมสัตว์เลื้อยคลานและสัตว์เลื้อยคลานที่มีกรงนกและแม้กระทั่งงานศิลป์ ผู้เยี่ยมชมสามารถเที่ยวชมสวนสาธารณะบนรถไฟ Tauber Family Railroad ขนาดเล็กซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่ปี 1931

เกาะ Mackinac.jpg

สวนประติมากรรมและสวน Frederik Meijer มีสภาพแวดล้อมหลากหลายที่ผู้เข้าชมสามารถเพลิดเพลินกับการสังเคราะห์ศิลปะและธรรมชาติ สวนกลางแจ้งรวมถึงใบแบบดั้งเดิมสวนสำหรับเด็กที่ส่งเสริมการมีปฏิสัมพันธ์กับพืชที่เป็นเอกลักษณ์ "Maze Butterfly Maze" และสวนญี่ปุ่นอันเงียบสงบที่มีน้ำตกคู่ บ้านไร่ยุค 1880 เป็นแบบจำลองของบ้านหลังแรกของ Lena Meijer และรวมถึง Farm GardenLena Meijer Conservatory เป็นสภาพแวดล้อมเขตร้อน 5 ชั้นที่มีพืชไม้หายากและแปลกใหม่หลายแห่งในเดือนมีนาคมและเมษายนผู้เข้าชมสามารถชมกระบวนการที่น่าทึ่งของผีเสื้อพระมหากษัตริย์ที่เปลี่ยนจากหนอนไปจนถึงแมลงที่บอบบาง ประติมากรรมที่พบได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร

25415.png

เมืองมินนิโซตา (Minnesota)

เมืองสหรัฐอเมริกาน่าเที่ยวอันดับถัดมาที่เราอยากแนะนำเลยก็คือ มินนิโซตา รัฐที่เต็มไปด้วยความงามของธรรมชาติและวัฒนธรรม โดยนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปสัมผัสและซึมซับกับบรรยากาศของธรรมชาติอันบริสุทธิ์ให้ทั่วปอดได้อย่างชื่นใจ พร้อมทั้งไปเยือนที่เที่ยวสำคัญต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น วิหารเซนต์ปอล, ศูนย์หมาป่านานาชาติ, อาคารรัฐสภารัฐมินนิโซตา, สวนสาธารณะประภาคารสปลิตร็อค และจุดเช็กอินไม่ควรพลาดอื่น ๆ อีกมากมา

มหาวิหารเซนต์ปอลในเซนต์ปอลสร้างขึ้นในช่วงต้นทศวรรษที่ 1900 และเป็นปัจจุบัน ศาลเจ้าแห่งอัครสาวกเปาโล และสถานที่แสวงบุญ การออกแบบเป็นแบบคลาสสิกเรเนสซองและการตกแต่งภายในขนาดใหญ่สามารถรองรับได้ถึง 3,000 คน สถานที่สักการะบูชาที่ใช้งานอยู่โบสถ์เปิดให้ประชาชนทั่วไปในช่วงกลางวันแม้ว่าการท่องเที่ยวในช่วงมวลชนและงานศักดิ์สิทธิ์อื่น ๆ จะท้อแท้ ทัวร์แบบมีไกด์ 1 ชั่วโมง มีให้บริการตั้งแต่เวลา 13.00 น. วันอังคารถึงวันศุกร์และเป็นวิธีที่ดีที่จะได้มุมมองทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับมหาวิหาร

มหาวิหารเซนต์ปอลในเซนต์ปอล.jpg
สถาบันศิลปะมินนิอาโปลิส.jpg

โฮสติ้งผู้เข้าชมมากกว่า 700,000 คนต่อปีสถาบันศิลปะมินนิอาโปลิส (Mia) มีงานศิลปะและสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย เข้าชมฟรี สำรวจ. คอลเลคชันที่ Mia มีงานศิลปะมากกว่า 89,000 งานการจัดแสดงนิทรรศการถาวรและชั่วคราวครอบคลุมทุกอย่างตั้งแต่ สมัยใหม่ชาวอเมริกันกับสิ่งประดิษฐ์โบราณจากทั่วโลก. ในบรรดาการติดตั้งอื่น ๆ ผู้เข้าชมสามารถตรวจสอบศิลปะญี่ปุ่นและเกาหลีศิลปะการตกแต่งและสิ่งทอและ Doryphoros - หนึ่งในสี่ฉบับโรมันที่ยังหลงเหลืออยู่ของประติมากรรมกรีกโบราณ Mia ยังเป็นเจ้าภาพ ทัวร์สาธารณะรายวันฟรี, โปรแกรมครอบครัวและศิลปะสี่วันในงานเทศกาลบลูมในแต่ละปีในฤดูใบไม้ผลิ

เดิมทีสร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1901 ถึงปี ค.ศ. 1905 เป็นสะพานถ่ายโอนทางอากาศด้วยรถสายเคเบิลสะพานขยายไปสู่ถนนทั้งหมดในปีพ. ศ. 2472 และนับเป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นของลู ธ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา สะพานช่วยให้ชาวมินนิโซตาพอยต์สามารถเข้าถึงแผ่นดินใหญ่ได้ บันทึกประวัติศาสตร์แห่งชาติ. สะพานยกอากาศของดุลูทดำเนินการตลอด 24 ชั่วโมงในวันนี้และเฝ้าดูการขึ้นเรือบรรทุกสินค้าเรือใบเรือทัวร์และเรือท่องเที่ยวเป็นส่วนหนึ่งของภาพ

สะพานยกอากาศของดุลูท.jpg
เนวาดา.jpg

เดินทางไปแนะนำกันต่อกับสถานที่เมืองท่องเที่ยวในสหรัฐอเมริกากันต่ออย่าง นิวเจอร์ซี่ หรือ รัฐที่มีสมญานามว่า การ์เด้นสเตท เนื่องจากรัฐแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งทางด้านตะวันออกของสหรัฐจึงทำให้ผู้คนส่วนใหญ่นิยมเดินทางมาเพื่อพักผ่อนหย่อนใจและสนุกสนานไปกับแสงสีของคลาสิโน ห้างสรรพสินค้า และร้านอาหารมากมายบริเวณริมชายฝั่งที่เปิดให้เหล่านักเดินทางและชาวเมืองได้เข้ามาอิ่มหนำไปกับวิวมหาสมุทรแอตแลนติกอันสวยงามแบบใกล้ชิด เรียกได้ว่าหากใครที่อยากเดินทางมาเที่ยวชมโอเชียนซิตี้แล้วละก็ห้ามพลาดเดินทางมาที่รัฐแห่งนี้เลย

นิวเม็กซิโก.jpg

เนวาดา เป็นรัฐที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากนักท่องเที่ยว เมื่อจากเป็นเมืองที่รู้จักกันดีในนามของ ลาสเวกัส เมืองแห่งบาป หรือ สวรรค์ของเหล่านักเสี่ยงโชคที่ต่างพากันเดินทางมาเพื่อหาความสนุกสนานในย่านของคาสิโนชื่อดัง ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาหาความสนุกสนานได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังมีโซนต่าง ๆ อีกมากที่ได้รับความนิยมไม่ว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติอย่างหน้าผาดินแดงเรดร็อค หรือ จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงพิพิธภัณฑ์ก็มีให้คุณได้เดินทางมาเพลิดเพลินไปกับแสงสีที่รัฐเนวาดาแห่งนี้เลย

นิวเจอร์ซี่.jpg

หากพูดถึง นิวเม็กซิโก คงหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยว่าเมืองแห่งนี้เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์มากมายของทิวทัศน์อันงดงาม และความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยวมากมายที่ดึงดูดให้ทั้งชาวเมืองและชาวต่างชาติได้เดินทางมาท่องเที่ยวในเมืองแห่งความลุ่มหลง ที่คุณจะหลงรักไปกับบรรยากาศโดยรอบ อาหาร และศิลปะของธรรมชาติที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาของคุณเอง โดยสถานที่สุดขึ้นชื่อของเมืองแห่งนี้ก็จะมีมากมายด้วยกันไม่ว่าจะเป็น Taos Ski Valley, Bandelier, และเมืองแห่งเทศกาลบอลลูนที่คุณห้ามพลาดอย่าง Albuquerque international Ballon Fiesta นั่นเอง

 เมืองเทกซัส

 ถือเป็นอีกหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวของประเทศอเมริกาที่มีการเติบโตทางด้านการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เนื่องจากรัฐแห่งนี้มีเมืองท่องเที่ยวมากมายไม่ว่าจะเป็น ซาน อันโตนิโอ ฮุสตัน ดัลลัส และเมืองอีกมากมายที่รอคอยให้คุณได้เข้ามาสัมผัสกับเสน่ห์ของการเดินทางของเมืองแต่ละที่ เพราะรัฐแห่งนี้มีพื้นที่ไม่กว้างมากนักและมีจุดท่องเที่ยวให้เที่ยวชมหลายจุด จึงเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากเดินทางแบบเรียบง่ายแต่สนุกสนานได้อย่างเต็มอิ่มในรัฐ ๆ เดียว ก็สามารถเดินทางมาได้ที่รัฐแห่งนี้เลย

อลาโม (The Alamo).jpg

อลาโม (The Alamo) นี่เป็นที่ตั้งของดินแดนที่ขึ้นชื่อว่า ดินแดนแห่งสองฤดูร้อน จัดเป็นหนึ่งในเกตเวย์ของหุบเขาริโอแกรนด์ เป็นเมืองเล็กๆ ในรัฐเท็กซัส ที่มีผู้คนราวๆ 20,000 คน เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ขอพืชผัก และบรรยากาศสไตล์คันทรี น่ามาเที่ยวถ่ายรูปที่สุด

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เท็กซัส (Bullock Texas State History Museum) พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ มีการจัดแสดงนิทรรศการถึง 3 ชั้น ให้ความรู้เกี่ยวกับการสู้รบ อิสรภาพ และการพัฒนาเมืองแห่งนวัตกรรมของรัฐ นักท่องเที่ยวจะได้เยี่ยมชมประติมากรรมสำริดที่สูงกว่า 10 เมตร ซึ่งมีลักษณะเป็นดาวเดียวขนาดใหญ่ สื่อถึงประวัตศาสตร์อันยาวนาน ที่ต้อสู้เพื่อเอกราชของเมือง

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เท็กซัส.jpg
อุทยานแห่งชาติบิ๊กเบน.jpg

อุทยานแห่งชาติบิ๊กเบน (Big Bend National Park) เป็นอุทยานระดับชาติ ที่มีพื้นที่อนุรักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในระบบนิเวศวิทยา มีการอนุรักษ์คุ้มครองพืชมากกว่า 1,200 สายพันธุ์ นกกว่า 450 สายพันธุ์ สัตว์เลื้อยคลาน 56 ชนิด และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 75 ชนิด รวมถึงยังเจอซากฟอสซิลของกระดูกไดโนเสาร์ และโบราณคดีต่างๆ ที่มีมายาวนานกว่าหมื่นปี พร้อมทั้งความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ภูเขาหินขนาดใหญ่ และแม่น้ำ

อุทยานแห่งชาติเทือกเขา (Guadalupe Mountains National Park) อุทยานแห่งนี้เป็นภูเขาหินของซากดึกดำบรรพ์ทางทะเล มีพื้นที่กว่า 135 ตารางไมล์ มีความโดดเด่นของแนวปะการังรูปเกือกม้า ที่ก่อตัวจากใต้มหาสมุทรมากว่า 250 ล้านปี และยังมียอดเขาอีกหลายลูก ที่มองเห็นวิวเมืองเท็กซัสได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ

อุทยานแห่งชาติเทือกเขา.jpg
ฟอร์ตเวิร์ธ สต๊อคยาร์ท.jpg

ฟอร์ตเวิร์ธ สต๊อคยาร์ท (Fort Worth Stockyards) เป็นเมืองที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1849 เมืองใหญ่อันดับ 5 ในรัฐเท็กซัส เมืองนี้เป็นศูนย์กลางการค้าวัวควาย มีวิวแม่น้ำทรินิตี้ ที่มองเห็นชัด และรอบๆเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมตะวันตกที่สวยงาม นอกจากนี้ ฟอร์ตเวิร์ธยังเป็นที่ตั้งของการแข่งขันเปียโนนานาชาติ Van Cliburn และพิพิธภัณฑ์หลายแห่งอีกด้วย

ชายหาดแห่งชาติ (Padre Island National Seashore) เป็นชายหาดที่แยกออกมาจากอ่าวเม็กซิโก เป็นที่อยู่อาศัยชองเต่าทะเลริดลีย์ รวมถึงที่อยู่ของนกเกือบ 400 สายพันธุ์ และยังมีเรืออับปางของสเปน ที่ให้เยี่ยมชม เพลิดเพลินไปกับการการเดินเล่นเลียบชายหากรับบรรยากาศ ลมเย็น และกิจกรรมสนุกๆ ทั้ง ตกปลา ตั้งแคมป์ พายเรือ วินด์เซิร์ฟ พายเรือแคนูหรือพายเรือคายัค และอีกมากมาย

ชายหาดแห่งชาติ.jpg
ทะเลสาบแคดโด.jpg

ทะเลสาบแคดโด (Caddo lake) เป็นทะเลสาบที่ครอบคลุมระหว่างรัฐเท็กซัส และหลุยเซียน่า มีพื้นที่กว้างกว่า 40 ไมล์ เป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ มีชาวแคดโดอาศัยอยู่ ซึ่งเป็นชนเผ่าพื้นเมืองอเมริกัน มีความโดดเด่นตรงต้นไซเปรสขนาดใหญ่ที่สุด ที่สวยงาม มีมอสสเปนปกคลุมอยู่ ความอันตรายก็มีสำหรับทะเลสาบนี้ที่ไม่ควรว่ายน้ำ เพราะมีจระเข้อาศัยจำนวนมาก

ถ้ำสะพานธรรมชาติ (Natural Bridge Cavern) เป็นถ้ำที่มีความอลังการ เหมาะแก่การมาเที่ยว เพราะข้างในเป็นหินปูน และถูกกัดเซาะจากน้ำฝน มีหินงอก หินย้อยกว่า 20,000 รูปร่างทั่วผนังถ้ำ มีความสวยงามแปลกตา แวววาม เมื่อมีไฟสีเหลืองส่องกระทบ ยิ่งเหมือนขุมทรัพย์ทองคำที่งดงาม จัดได้ว่าเป็นถ้ำที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ซึ่งน่าเข้ามาเที่ยวมากเลยล่ะ

ถ้ำสะพานธรรมชาติ.jpg
ศูนย์อวกาศฮุสตัน.jpg

ศูนย์อวกาศฮุสตัน (Space Center Houston)    เป็นศูนย์อวกาศในสังกัดของนาซ่า ซึ่งภายในจะได้เห็นวิวัฒนาการอันน่าทึ่งที่มนุษย์ได้ประดิษฐ์คิดค้น ตื่นเต้นไปกับการชมการฝึกปฏิบัติจริงตามภารกิจของนักบินอวกาศนาซ่า จำหน่ายตั๋วให้ได้ชมเพียงวันละ 12 ใบ มีแกลเลอรีชุดนักบินอวกาศ รวมถึงกระสวยอวกาศและยานแคปซูลทั้งลำดั้งเดิม รวมถึงแบบจำลองอวกาศที่ทุกคนจะได้สัมผัสราวได้ไปเยือนอวกาศจริงๆ

เมืองเวอร์จิเนีย

ไปต่อกันที่ เมืองของคู่รักหลากหลายคู่กันบ้างดีกว่าอย่าง เวอร์จิเนีย เมืองท่องเที่ยวของประเทศอเมริกาที่อัดแน่นไปด้วยความงดงามของชายหาด และผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ รวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่สำคัญมากมายที่รอคอยให้เราได้เข้ามาสัมผัสกันได้อย่างใกล้ชิด โดยเมืองที่ขึ้นชื่อของรัฐเวอร์จิเนียแห่งนี้จะมี ริชมอนด์, นอร์ฟอล์ก, วิลเลียมสเบิร์ก และแหล่งช้อปปิ้งชื่อดังในเมือง Charlottesville นั่นเอง แนะนำเลยว่าสำหรับคู่รักที่อยากมาฮันนีมูนท่องเที่ยวแบบชิล ๆ มีครบทั้งธรรมชาติ แหล่งบันเทิง และช้อปปิ้งแล้วละก็ต้องไม่พลาดเลย

หาดเวอร์จิเนีย.jpg

กระจายไปทั่ว 600 เอเคอร์ที่สามารถมองเห็น Washington, D.C. สุสานแห่งชาติ Arlington เป็นสถานที่ที่ฝังศพคนที่มีชื่อเสียงที่สุดในสหรัฐอเมริกา ผู้เยี่ยมชมมากที่สุดคือ หลุมฝังศพของประธานาธิบดีจอห์นเอฟเคนเนดี้ และสุสานทหารนิรนาม หลุมฝังศพของเคนเนดีถูกทำเครื่องหมายด้วยศิลาฤกษ์หินชนวนปกคลุมด้วยโกลด์เคปคอดและมีจารึกไว้ในซุ้มประตู 2503 ที่แกะสลักด้วยหินอ่อนเช่นเดียวกับเปลวไฟนิรันดร์ หลุมฝังศพของทหารที่ไม่รู้จัก แกะสลักจากหินอ่อนสีขาวและเฝ้ายามเกียรติ 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์ 365 วันต่อปี มันมีซากศพของทหารจากสงครามโลกครั้งที่สองความขัดแย้งเกาหลีและสงครามเวียดนาม นักท่องเที่ยวที่สามที่กำลังมองหาคือสถานที่ที่มีชื่อเสียง อนุสรณ์สถาน Iwo Jima, นาวิกโยธินอนุสรณ์สถานสงครามรูปภาพโจเซฟโรเซนธาลของห้านาวิกโยธินและหนึ่งกะลาสียกธงบน Mount Suribachi อนุสาวรีย์สำคัญอื่น ๆ ได้แก่ อนุสรณ์ Seabees

หาดเวอร์จิเนีย ตั้งอยู่บนพื้นที่กว้างใหญ่ของหาดทรายสีทองที่ทอดยาวจากทางตะวันออกของ Norfolk เวอร์จิเนียบีชเป็นเมืองตากอากาศที่เป็นที่นิยมและมักมากกับโรงแรมที่คาดว่าจะสนุกสนานและทางเดินริมทะเลที่ยาวนาน ถ้ามหาสมุทรแอตแลนติกไม่อบอุ่นพอสำหรับเด็กพาพวกเขาไปที่ 19 เอเคอร์ Ocean Breeze Water Parkพร้อมด้วยภาพนิ่งแบบแคริบเบียนสระว่ายน้ำคลื่นและสนามเด็กเล่นน้ำ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำและพิพิธภัณฑ์ทางทะเลเวอร์จิเนีย สำรวจสภาพภูมิอากาศพื้นทะเลและสัตว์ของชายฝั่งโดยมีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำขนาด 800,000 แกลลอนอุปกรณ์จัดแสดงนิทรรศการและถังสัมผัส กลางแจ้งคือนกกรายธรรมชาติเส้นทางลุ่มในการสำรวจและสวนสนุก

สุสานแห่งชาติ Arlington.jpg
Busch Gardens Curtis Palmer.jpg

Busch Gardens Curtis Palmer สวนสนุกที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวานี้เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางไปยังภาคใต้ของเยอรมนีในพื้นที่บันเทิงของโรงแรมซึ่งมีนักเต้น dirndl-costumed และวงดนตรีบาวาเรียแบบดั้งเดิมในขณะที่การขี่ม้าและ roller coasters ไปจนถึงมอนสเตอร์ Loch Ness, Alps และสถานที่ปรักหักพังของ Pompeii ให้ความตื่นเต้น สำหรับทั้งครอบครัว ในช่วงเวลาที่เงียบสงบคุณสามารถดูฝูงแกะโคลี่ชายแดนตามที่พวกเขาทำในสก็อตแลนด์หรือใช้เวลาร่วมกับนกแปลกใหม่ในกรงนกอินทรีแบบโต้ตอบ ส่วนพิเศษได้รับการออกแบบสำหรับเด็กที่อายุน้อยกว่าด้วยการขี่ที่เหมาะสมกับระดับความตื่นเต้นของพวกเขา

เมืองฟลอริดา

เมื่อพูดถึงรัฐฟลอริดา แน่นอนว่าสิ่งแรกที่ทำให้เรานึกถึงกันก่อนเลยก็คือ ออร์แลนโด เมืองที่ตั้งอยู่ในรัฐที่เต็มไปด้วยประชากรมากมาย และแหล่งบันเทิงที่ครบครันจึงทำให้เมืองรัฐแห่งนี้ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะการเดินทางมาของนักท่องเที่ยวเพื่อมาเที่ยวเล่นสวนน้ำ และสวนสนุกดังระดับโลกอย่างสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ สวนสัตว์น้ำซีเวิลด์ และสวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ ที่เรียกว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจนเรียกได้ว่ารัฐแห่งนี้กลายเป็นรัฐท่องเที่ยวที่เนืองแน่นไปด้วยนักเดินทางตลอดทั้งปีเลยทีเดียว

ออร์แลนโด.jpg

 ไมอามี่ ตั้งอยู่ในรัฐฟลอริดาตอนใต้ไมอามี่เป็นเมืองที่มีความสุขมากที่สุดแห่งหนึ่งของรัฐ ไมอามีและบริเวณใกล้เคียงไมอามีบีชแสดงด้านเก่าและใหม่ของฟลอริดา ใจกลางเมืองที่เจริญรุ่งเรืองทันสมัยตั้งอยู่ตรงกันข้ามกับบรรยากาศที่ผ่อนคลายมากขึ้นของหาดไมอามี South Beach เป็นชายหาดที่น่าตื่นเต้นที่สุดของไมอามี่ที่รู้จักกันในย่าน Art Deco และห้างสรรพสินค้าสำหรับผู้เดินเท้าสุดทันสมัยที่ทอดยาวขนานไปกับชายหาดเต็มไปด้วยภัตตาคารกลางแจ้งที่หันหน้าเข้าหาน้ำความบันเทิงและสิ่งต่างๆมากมายที่น่าสนใจ

ออร์แลนโด หัวใจของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของฟลอริดาคือเมืองออร์แลนโดซึ่งเป็นที่ตั้งของสวนสนุกที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติเช่นวอลต์ดิสนีย์เวิลด์ Universal Studios และ SeaWorld เหล่านี้ได้ขยายไปหลายปีแล้วเพื่อรวมสวนน้ำขนาดใหญ่ที่มีธีมเช่น Discovery Cove, Typhoon Lagoon และ Volcano Bay ครอบครัวลงไปที่สวนสนุกขนาดใหญ่เหล่านี้เป็นจำนวนมากในช่วงวันหยุดราชการ แต่เมืองนี้เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมตลอดทั้งปี

ไมอามี่.jpg
คีย์เวสต์.jpg

คีย์เวสต์ในประวัติศาสตร์ที่ปลายสุดทางตอนใต้ของทวีปอเมริกามีความรู้สึกเป็นเกาะอย่างเห็นได้ชัดมีสถาปัตยกรรมเก่าแก่และก้าวช้า เมืองอันงดงามและผ่อนคลายแห่งนี้เป็นที่รู้จักสำหรับการเป็นที่รู้จักของผู้เขียนหลายคนรวมถึง Robert Frost, Tennessee Williams และ Ernest Hemingway ที่ตั้งของมันได้นำไปสู่การผสมผสานทางวัฒนธรรมที่หลากหลายซึ่งรวมถึงอิทธิพลจากหมู่เกาะแคริบเบียนหลายแห่งซึ่งได้นำทัศนคติที่ผ่อนคลายสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจและความหลากหลายของอาหารมาสู่ภูมิภาคนี้ คีย์เวสต์เป็นท่าเรือล่องเรือยอดนิยมซึ่งเต็มไปด้วยแหล่งบันเทิงและกิจกรรมน่าสนใจอื่น ๆ

เมืองวอชิงตัน ดีซี

 เดินทางมาถึงประเทศอเมริกาแน่นอนว่าไม่ต้องพลาดกับการเดินทางมาเมืองแห่งมหานครอย่าง วอชิงตัน ดีซี ที่นับได้ว่าเป็นเมืองหลวงของประเทศอเมริกาที่ไม่ว่าใครได้เดินทางมาก็ต้องแวะมาท่องเที่ยวตามแหล่งแลนด์มาร์กเด็ดอย่างทำเนียบขาว ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยและสถานที่ทำงานของท่านประธานาธิบดี อีกทั้งเมื่อเดินถัดไปยังสถานที่ใกล้เคียงกันก็จะสามารถมาเที่ยวชมอนุสาวรีย์วอชิงตัน ที่เปรียบเสมือนเสาหลักของประเทศที่รวบรวมเรื่องราวให้คุณได้เดินทางมาชื่นชมและถ่ายรูปกับแลนด์มาร์คเด็ดที่บริเวณสถานที่แห่งนี้นั่นเอง

อาคารรัฐสภาสหรัฐอเมริกา.jpg

อาคารรัฐสภาสหรัฐอเมริกา (United States Capitol) อาคารแห่งนี้ เป็นสถานที่ที่มีอำนาจ ใช้เป็นสถานที่ร่าง อภิปราย บังคับใช้กฎหมายภายในห้องต่างๆ รูปแบบอาคารถูกแบบตามสถาปัตยกรรมศตวรรษที่ 18 สุดคลาสสิก ภายในเมื่อมาเยี่ยมชม จะได้พบกับ นิทรรศการขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมพื้นที่ 3 ชั้น ชมภาพยนตร์ความยาว 13 นาทีเกี่ยวกับประวัติความเป็นมา และบทบาทของรัฐสภาที่มีต่อชีวิตของชาวอเมริกัน นอกจากนี้ยังมีการเปิดห้องสำคัญในรัฐสภาให้ชมอีกด้วย

ไวท์ เฮ้าส์ (White House) ที่นี่เป็นทำเนียบขาว ใช้สำหรับเป็นสถานที่ทำงานหลักของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ปี 1800 เป็นต้นมา มีความปลอดภัยสูง เพราะภายนอกจะมีทหารคอยเฝ้าดูแลอยู่รอบด้าน แสดงถึงความยิ่งใหญ่ และการมีอำนาจของผู้นำประเทศ ถ้ามาถึงวอชิงตัน ดีซี แล้ว ก็ต้องมาถ่ายรูปกับทำเนียบขาวกันสักหน่อย

ไวท์ เฮ้าส์.jpg
เนชันแนล แอร์ แอนด์ สเปซ มิวเซียม.jpg

อนุสรณ์สถานโทมัส เจฟเฟอร์สัน (Thomas Jefferson Memorial) เป็นปูชนียสถาน ที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับบรรดาประธานาธิบดีและเหล่านักคิดชั้นนำของอเมริกา อย่าง ทอมัส เจฟเฟอร์สัน ประธานาธิบดีคนที่สามของสหรัฐอเมริกา รูปปั้นของเจฟเฟอร์สัน ทำจากทองสำริด ความสูง 19 ฟุต หันหน้าออกไปทางทำเนียบขาว เพื่อสื่อถึงการเป็นนักปราชญ์ เต็มไปด้วยปัญญา เปิดให้เข้าชมได้ทุกวัน 24 ชั่วโมง

จอร์จทาวน์ แอนด์ เดอะ วอเตอร์ ฟร้อนท์.jpg

อนุสาวรีย์วอชิงตัน (Washington Monument) อนุสาวรีย์แห่งนี้ ตั้งขึ้นเพื่อยกย่องประธานาธิบดีคนแรกของอเมริกา เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของความภาคภูมิใจประจำชาติ การออกแบบเป็นแท่งหินปูนโอเบลิสก์ขนาดใหญ่ มีความสูง 555 ฟุต จากมุมสูงนี้ จะสามารถเห็นวิวของทำเนียบขาว อาคารรัฐสภา และอนุสาวรีย์ต่างๆ ด้วย การเข้าชมต้องมากันแต่เช้า เพราะตั๋วแต่ละรอบมีจำนวนจำกัดในการเข้าชม

เนชันแนล แอร์ แอนด์ สเปซ มิวเซียม (National Air and Space Museum) จัดได้ว่า เป็นพิพิธภัณฑ์การบินและอวกาศที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งมีการรวบรวมจากทั่วโลกมาได้ที่นี่ สิ่งของและวัตถุเกี่ยวกับการบิน อวกาศ ก็จะเป็นของจริงทั้งหมด ที่ใช้ในการจัดแสดง มีแกลลอรี่ภาพประวัติศาสตร์ต่างๆ และแน่นอน เด็กๆ จะต้องชอบการมาทดลองเครื่องบินจำลอง และท่องจักรวาลไปกับยานอวกาศได้อย่างตื่นเต้น เข้าฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายด้วย

อนุสรณ์สถานโทมัส เจฟเฟอร์สัน.jpg

จอร์จทาวน์ แอนด์ เดอะ วอเตอร์ ฟร้อนท์ (Georgetown and the Waterfront) เมืองที่โดดเด่นไปด้วยหินกรวด และเป็นย่านที่เก่าแก่ที่สุดของวอชิงตัน ดีซี เมืองแห่งประวัติศาสตร์ที่ถูกสร้างขึ้นมาในปี 1751 มีสถาปัตยกรรมหินสไตล์จอร์จเจียน หรือบ้านที่ทำมาจากอิฐ ที่นี่จะได้เห็นทั้ง บ้านหินเก่าแก่ ห้องจะตกแต่งด้วยสไตล์โคโลเนียลชั้นกลาง มีผลงานศิลปะและเฟอร์นิเจอร์จำนวนทั้งสิ้น 8,000 ชิ้น จอร์จทาวน์เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญทางด้านประวัติศาสตร์ แต่ก็มีร้านอาหาร ร้านค้า สวนสาธารณะ  แม่น้ำ มหาวิทยาลัย และอื่นๆ ที่น่าสนใจ น่ามาเที่ยวสุดๆ

อนุสาวรีย์วอชิงตัน.jpg

เมืองฮาวาย

นับได้ว่าเป็นรัฐที่อัดแน่นไปด้วยประชากรจำนวนมากอย่างล้มลาม และอยู่กันเป็นจำนวนมากในบริเวณของเมืองหลวงอย่าง โฮโนลูลู เมืองของแหล่งท่องเที่ยวสุดขึ้นชื่ออย่าง เกาะโอวาฮู ที่แปลเป็นภาษาฮาวายว่าอ่าวแห่งความสงบเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ชาวเมืองและนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมเดินทางมาเพื่อพักผ่อนหย่อนใจกับบรรยากาศสุดชิลริมชายหาดพร้อมกับการนั่งจิบค็อกเทลอย่างเพลิดเพลิน นอกจากนี้ยังเป็นจุดเช็กอินสุดขึ้นชื่อสำหรับสายกิจกรรมทางน้ำอย่างการโต้คลื่นที่รับรองได้เลยว่าชายหาดแห่งนี้จะทำให้คุณได้วาดลวดลายอย่างเต็มที่แน่นอน

ชายหาดไวกีกิ (Waikiki Beach) ชายหาดที่มีชื่อเสียงระดับโลกในฐานะแหล่งพักผ่อนยอดฮิต ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของ โฮโนลูลู่ (Honolulu) บนเกาะโออาฮู (Oahu) ของฮาวายค่ะ มีทั้งแหล่งช้อปปิ้ง และรีสอร์ท โรงแรมสุดหรูหลายแห่งเรียงรายตามริมชายหาด ผู้คนส่วนใหญ่จะนิยมมานอนอาบแดด และทำกิจกรรมทางน้ำกันที่นี่ ยิ่งนักเซิร์ฟยิ่งเลิฟเลยค่ะ เพราะชายหาดนี้จะมีคลื่นลมค่อนข้างแรง เหมาะกับการมาเล่นเซิร์ฟมากๆ แถมน้ำทะเลยังเป็นสีฟ้าสดใส น่าเล่นสุดๆ

พระราชวังอิโอลานี.jpg

นอกจากชายหาดไวกีกิที่มีชื่อเสียงแล้ว ฮาวายก็ยังมี อ่าวฮานาอูมา (Hanauma Bay) ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นชายหาดที่ดีที่สุดในอเมริกาด้วย โดยอ่าวแห่งนี้ได้มีการจดทะเบียนให้เป็น เขตอนุรักษ์ธรรมชาติอ่าวฮานาอูมา (Hanauma Bay Nature Preserve) และ อุทยานใต้น้ำ เมื่อปี ค.ศ. 1967 มีโลกใต้น้ำที่อุดมสมบูรณ์ เต็มไปด้วยแนวปะการัง สัตว์น้ำหลากสีสัน หลากหลายชนิด อีกทั้งยังมีชายหาดที่สวยงาม โดดเด่นด้วยลักษณะโค้งเป็นรูปวงกลม เป็นทั้งแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ และกิจกรรมทางน้ำชั้นยอดของฮาวายค่ะ

ชายหาดไวกีกิ.jpg

พระราชวังอิโอลานี (Iolani Palace) สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1882 เดิมเป็นที่ประทับของกษัตริย์แห่งฮาวาย ก่อนจะกลายมาเป็นที่ทำการของรัฐบาล และกลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์พระราชวังในที่สุด ซึ่งปัจจุบันพระราชวังอิโอลานีก็ได้รับการจดทะเบียนให้กลายเป็น National Historic Landmark ของอเมริกา รวมถึงเป็นสัญลักษณ์ของฮาวาย ที่ใครได้มาเที่ยวเมืองโฮโนลูลู่แล้ว ก็ไม่ควรพลาดเด็ดขาดเลยค่ะ

อ่าวฮานาอูมา.jpg
หาดลานิไก.jpg

มาเที่ยวฮาวายทั้งที ไม่ไปสัมผัสวัฒนธรรมของชนเผ่าพื้นเมืองฮาวายเลยก็เหมือนมาไม่ถึงน้า  ศูนย์วัฒนธรรมโพลีนิเชียน (Polynesian Cultural Center) เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่ทำให้เราได้ไปสัมผัสศิลปะและวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของชนเผ่าพื้นเมืองฮาวายทั้ง 7 เผ่า มีการแสดงต่างๆ ให้เราได้สนุกเพลิดเพลินไปตลอดทริป โดยมีไฮไลท์เป็น ระบำฮูลาฮูลา การแสดงระบำชื่อดังของชาวโพลีนิเชียน เป็นเสน่ห์และสีสันอย่างหนึ่งที่ไม่ควรพลาเป็นอย่างยิ่งค่ะ

เกาะเมาวี.jpg

ปิดท้ายด้วย น้ำตกไวลูอา (Wailua Fall) น้ำตกชื่อดังแห่งเกาะคาไวที่มีทัศนียภาพที่สวยงาม เราจะได้เห็นทิวทัศนีย์ของสายน้ำตกสีขาว 2-3 สายไหลลงมาจากผาสูง 25 เมตร รายล้อมไปด้วยแมกไม้ร่มรื่น เป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยวที่อยากมาชมธรรมชาติง่ายๆ แบบไม่ต้องบุกป่าฝ่าดง แถมยังมีแอ่งน้ำกว้างขวางให้เราลงไปเล่นน้ำเย็นๆ ได้ด้วย

ดื่มด่ำกับบรรยากาศแสนสดใสที่ หาดลานิไก (Lanikai Beach) ในเมือง ไคลัว (Kailua) ห่างจากโฮโนลูลู่ประมาณ 30-45 นาที มีไฮไลท์เป็นชายหาดสีทอง และต้นปาล์มที่ขึ้นเรียงรายริมหาด ตัดกับน้ำทะเลสีฟ้าใส มองเห็นวิวเกาะ 2 แห่งตั้งอยู่กลางท้องทะเลอันกว้างใหญ่ เป็นทั้งแหล่งรีสอร์ทที่พัก ร้านอาหาร และบาร์ริมทะเล ที่สำคัญยังเป็นจุดชมอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามมากๆ ด้วย

ศูนย์วัฒนธรรมโพลีนิเชียน.jpg

เดินทางจากเกาะโออาฮูมาเที่ยว เกาะเมาวี (Maui) กันบ้างค่ะ บอกเลยว่ามีเสน่ห์ไม่แพ้กัน เริ่มที่ หาดคานาปาลี (Kaanapali Beach) หนึ่งในชายหาดที่ดีที่สุดในอเมริกา ชายหาดสวยที่ทอดยาวคู่ขนานกับน้ำทะเลเป็นระยะทาง 3 ไมล์ เป็นแหล่งที่พัก โรงแรม รีสอร์ทสุดหรูที่มีนักท่องเที่ยวมาพักผ่อนมากมาย แถมยังมีร้านค้า ร้านอาหาร พิพิธภัณธ์ สนามกอล์ฟ และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ อีกด้วย

น้ำตกไวลูอา.jpg
แฮมเบอร์เกอร์.jpg

แฮมเบอร์เกอร์  เป็นขนมที่เข้าถึงได้ง่ายและเป็นที่นิยมมากที่สุดซึ่งมีต้นกำเนิดในสหรัฐอเมริกา ลองจานนี้กับเนื้อบด มะเขือเทศ ผักกาดหอม และผักอื่นๆ ภายในขนมปังสองแผ่น ก่อนหน้านี้ผู้คนเคยกินเนื้อและขนมปังแยกกัน แต่ด้วยการประดิษฐ์แฮมเบอร์เกอร์ การรับประทานร่วมกันกลายเป็นการประหยัดเวลามากขึ้น ตอนนี้เบอร์เกอร์ถูกจัดประเภทเป็นอาหารจานด่วนและเป็นอาหารดั้งเดิมของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นสัญลักษณ์การทำอาหารของประเทศ

พายแอปเปิ้ล  จานนี้มีต้นกำเนิดในอังกฤษ เป็นพายผลไม้สอดไส้แอปเปิ้ลเป็นหลัก แต่เมื่อผู้อพยพชาวยุโรปเข้ามาในประเทศ ชาวพื้นเมืองได้รู้จักส่วนผสมหลักของพายแอปเปิ้ล เช่น ลูกจันทน์เทศและอบเชย ในไม่ช้าอาหารจานนี้ก็ดึงดูดใจทุกคนและกลายเป็นส่วนหนึ่งของอาหารอเมริกันแบบดั้งเดิมในศตวรรษที่ 18 และ 19

พายแอปเปิ้ล.jpg
เทเทอร์ ท็อตส์.jpg

เทเทอร์ ท็อตส์  จานนี้เป็นอาหารขึ้นชื่อของอเมริกา เป็นมันฝรั่งขูดในรูปทรงกระบอก จานนี้กรอบปรุงรสอ่อนๆ เป็นอาหารว่างยอดนิยมของคนทุกวัย คุณสามารถจับคู่กับดิปประเภทต่างๆ นอกจากนี้ บริษัทอาหารแช่แข็งหลายแห่งได้รวมอาหารจานนี้ไว้ในหน่วยเก็บรักษาสต็อกของตน

กระตุก  เป็นอาหารจานหลักสำหรับชาวอเมริกันเร่ร่อนในหมู่คาวบอย ผู้เยาว์ และผู้บุกเบิก เนื้อสัตว์ประเภทต่าง ๆ จะถูกทำให้แห้งด้วยเกลือและหมักหรือปรุงรสในภายหลัง จานนี้ใช้แทนผักดองได้เนื่องจากไม่ต้องเตรียมอะไรเพิ่มเติม นอกจากนี้ คุณไม่จำเป็นต้องแช่เย็นเพื่อถนอมอาหาร และยังมีปริมาณโปรตีนสูงอีกด้วย เนื้อกระตุกบางชนิดประกอบด้วยสารให้ความหวาน จึงทำให้เครื่องเคียงนี้มีหลากหลายรสชาติ หากคุณต้องการเพิ่มเนื้อสัตว์ในจานของคุณ ให้สั่งอาหารจานเด็ดของสหรัฐอเมริกาพร้อมกับมื้ออาหารของคุณ

กระตุก.jpg
Mac และชีส.jpg

ปีกไก่บัฟฟาโล  ปีกไก่คือความรัก และปีกควายเหล่านี้สามารถกระตุ้นอารมณ์ความรู้สึกนั้นได้ จานนี้เป็นปีกไก่ทอดกรอบที่ราดซอสเผ็ดพริกป่นจากน้ำส้มสายชูและเนยละลาย ผู้คนเสิร์ฟพร้อมผักผัดและเครื่องจิ้ม เช่น น้ำสลัดแรนช์และบลูชีส เมนูนี้กล่าวถึงจานนี้ว่า ปีกไก่ ปีกไก่ หรือปีกไก่อบร้อน ควายในที่นี้หมายถึงส่วนเคลือบหรือรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของปีกไก่เหล่านี้ ปัจจุบันร้านอาหารอเมริกันหลายแห่งเสนอตัวเลือกที่ดีต่อสุขภาพสำหรับปีกควายด้วยการอบ เป็นอาหารที่มีชื่อเสียงในสหรัฐอเมริกาอย่างไม่ต้องสงสัย

ฮอทดอก.jpg

มีทโลฟ  คุณสามารถหั่นมีทโลฟตามความอยากอาหารของคุณ อาหารจานง่ายๆ นี้ประกอบด้วยเนื้อสับกับเครื่องเทศต่างๆ และอบหรือรมควันเป็นก้อนกลม มักผสมกับเกล็ดขนมปัง ไข่ ชีส หรือผักเพื่อรักษาความชื้นของเนื้อ คุณยังอาจได้ซอสมะเขือเทศเป็นเครื่องปรุง เดิมเป็นอาหารดั้งเดิมในเยอรมนี เบลเยียม และสแกนดิเนเวีย ถึงกระนั้น เวอร์ชันอเมริกันก็ถูกสร้างขึ้นใหม่จาก Scrapple ซึ่งเป็นอาหารที่เสิร์ฟในเพนซิลเวเนีย หากคุณกำลังพิจารณาทำอาหารกลางวันในสหรัฐอเมริกา อาหารจานนี้อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม เนื่องจากมีสารอาหารทั้งหมดที่คุณต้องการในตอนกลางวัน

Mac และชีส  พาสต้าเป็นส่วนสำคัญของอาหารอิตาเลียน อย่างไรก็ตาม เมื่อพูดถึงมักกะโรนีและชีส มันคือพาสต้าแบบอเมริกัน คุณจะแปลกใจว่ามันเป็นอาหารที่ดีที่สุดในอเมริกา คนในที่ทำงานและเด็กๆ ที่บ้านต่างมองว่าอาหารจานนี้เป็นอาหารจานเดียวที่ใครๆ ก็อิ่มท้องได้ในทันที สิ่งที่คุณต้องทำก็แค่อบมักกะโรนีและเชดดาร์ชีสเข้าด้วยกัน มีเครื่องปรุงรสอ่อนๆ และมีชีสเยอะมาก คุณสามารถค้นหาได้อย่างง่ายดายจากทุกเมนูของร้านกาแฟและร้านอาหาร ถ้าคุณชอบของอร่อยๆ ชีสๆ ต้องลอง

ปีกไก่บัฟฟาโล.jpg

ฮอทดอก  เป็นอาหารว่างที่ห่อไส้กรอกนึ่งหรือย่างในขนมปังแล้วราดด้วยซอสมะเขือเทศและมัสตาร์ด เครื่องปรุงอื่นๆ เช่น หัวหอม พริกฮาลาปิโน มะกอก เบคอน ฯลฯ มีให้บริการ แม้ว่าจานนี้จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของอาหารอเมริกัน แต่รากของมันยังคงอยู่ในเยอรมนี เป็นอาหารจานหลักของประเทศนั้น ผู้อพยพชาวเยอรมันจำนวนมากเดินทางมายังนิวยอร์กในช่วงปลายทศวรรษ 1800 และเริ่มขายฮอทด็อก (ไม่มีขนมปัง) เป็นครั้งแรกในประเทศ ผู้คนชอบสิ่งนี้และในไม่ช้าผู้ขายก็ปรับปรุงมันด้วยขนมปัง อาหารจานนี้ได้กลายเป็นอาหารประจำชาติของสหรัฐอเมริกา คุณสามารถเห็นแผงขายฮอทด็อกได้ทุกที่ ดังนั้นไม่ว่าคุณจะดูการแข่งขันฟุตบอลหรือเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ เพียงแค่หยิบฮอทด็อกสักคำเพื่อให้พลังงานและรสชาติที่ระเบิดในปากของคุณ

มีทโลฟ.jpg
ปลายข้าว.jpg

ปลายข้าว  คำว่า 'ปลายข้าว' หมายถึงอาหารหยาบในภาษาอังกฤษโบราณ เป็นโจ๊กชนิดหนึ่งที่ปรุงด้วยข้าวโพดต้ม โจ๊กนี้เป็นอาหารที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา (โดยเฉพาะในชุมชนชายฝั่ง) คุณอาจเห็นคนอเมริกันจำนวนมากบริโภคเป็นอาหารเช้าหรืออาหารเย็น คนกินมันกับส่วนผสมอื่น ๆ รวมทั้งไข่ เบคอน ปลา และแฮมประเทศ นอกจากนี้ยังสามารถลองชิมได้หลากหลายรสชาติทั้งคาวและหวาน

ซี่โครงบาร์บีคิว  รองจากแฮมเบอร์เกอร์หรือพายแอปเปิ้ล อาหารยอดนิยมอย่างหนึ่งในสหรัฐอเมริกาคือซี่โครงบาร์บีคิว เป็นอาหารที่ปรุงจากซี่โครงของสิ่งมีชีวิตต่างๆ เช่น เนื้อแกะและหมู ซี่โครงมีทั้งย่าง คั่ว ทอด อบ หรือรมควัน และเสิร์ฟพร้อมซอสบาร์บีคิวต่างๆ อาหารรสเผ็ดนี้สามารถยกระดับอารมณ์ของคุณและปรนเปรอต่อมรับรสของคุณ

ซี่โครงบาร์บีคิว.jpg
แซนวิชคิวบา.jpg

แซนวิชคิวบา  แซนวิชนี้ประกอบด้วยขนมปังคิวบา ทาเนย มัสตาร์ดเป็นแผ่น สวิสชีสสไลซ์ ผักดองผักชีฝรั่ง และเนื้อสัตว์ XNUMX ชนิดที่แตกต่างกัน เช่น หมูย่าง ซาลามี หรือแฮมเคลือบ ตามชื่อที่แนะนำ มันมีต้นกำเนิดในคิวบาและได้รับชื่อเป็นอาหารจานเด่นในแทมปา (เมืองคิวบา) เป็นมื้อเที่ยงสุดโปรดของคนงานบุหรี่ชาวคิวบา แต่เมื่ออุตสาหกรรมเปลี่ยนไปที่ฟลอริด้า อาหารจานนี้ได้เดินทางจากคิวบาไปยังสหรัฐอเมริกาและได้รับการยอมรับพอสมควร ขณะนี้มีเครือข่ายแบรนด์มากมายเช่น Publix ที่ให้บริการแซนวิชคิวบาพร้อมรับประทานและปรุงสดใหม่ คุณสามารถลองชิมได้ในช่วงเวลาอาหารว่าง

สับซื่อ  จานนี้เป็นส่วนสำคัญของอาหารจีน ถึงกระนั้นชาวอเมริกันก็เป็นผู้ริเริ่มอาหารจานนี้เมื่อสถานที่แห่งนี้กลายเป็นบ้านของชาวจีนจำนวนมาก มีเรื่องเล่ามากมายที่เกี่ยวข้องกับการประดิษฐ์อาหารจานนี้ ประกอบด้วยเนื้อสัตว์ ไข่ ผักผัด (กะหล่ำปลี ขึ้นฉ่าย ถั่วงอก ฯลฯ) และซอส คนเอาไปทำกับข้าว มีรสเผ็ดเล็กน้อยและสามารถเลือกรับประทานเป็นอาหารจานหลักได้

สับซื่อ.jpg

อะโวคาโดโทสต์  อะวาคาโดเป็นผลไม้พื้นเมืองของประเทศ และความรักที่มีต่อมันนั้นช่างเหลือเชื่อ ขนมปังอะโวคาโดได้รับความนิยมในช่วงปี 2010 และจนถึงขณะนี้ มีผู้เห็นคนดังหลายคนโปรโมตขนมปังอะโวคาโดนี้ให้เป็นทางเลือกของว่างเพื่อสุขภาพ จานนี้ประกอบด้วยอะโวคาโดบด เครื่องปรุงรส น้ำมันมะกอก ฮัมมูส มะเขือเทศ และน้ำมะนาว ในอเมริกา นี่คืออาหารที่ดีที่สุดในสหรัฐอเมริกาสำหรับมื้อเช้าและเติมพลังให้ร่างกายด้วยสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพ แล้วจะพลาดเมนูนี้ไปได้อย่างไร? แค่ลองทานเป็นอาหารเช้ากับชาสไตล์อเมริกันของคุณ

อะโวคาโดโทสต์.jpg
สเต็กไก่ทอด.jpg

สเต็กไก่ทอด  การลองอาหารจานนี้ควรอยู่ในใจของคุณ มันเป็นอาหารออสเตรีย Wiener Schnitzel และ Cotoletta Alla ของอิตาลี จานประกอบด้วยสเต็กเนื้อนุ่มชิ้นหนึ่งจุ่มลงในแป้ง (ไข่หรือบัตเตอร์มิลค์) เคลือบ  ด้วยแป้งปรุงรสและทอดในภายหลังเช่นเดียวกับเนื้อทอด เป็นที่รู้จักกันว่าสเต็กทอดแบบชนบท คุณสามารถเพลิดเพลินกับครีมเกรวี่ ผัก แฮชบราวน์ และขนมปังปิ้ง

ศูนย์การค้าใน USA

Universal CityWalk Hollywood

https://maps.app.goo.gl/dEvgUNY3VSxKCmWs7

Universal CityWalk Hollywood.png
Sherman Oaks Galleria.png

แบรนด์เนมทีเมื่อไปแล้วไม่ควรพลาดซื้อ

 

Michael Kors คิดค้นโดย Michael David Kors เป็นนักออกแบบแฟชั่นชาวอเมริกัน เขาเป็นประธานกิตติมศักดิ์และหัวหน้าเจ้าหน้าที่สร้างสรรค์ของแบรนด์ Michael Kors ซึ่งจำหน่ายเครื่องแต่งกายบุรุษและสตรีเครื่องประดับสำเร็จรูปนาฬิกาเครื่องประดับอัญมณีรองเท้าและน้ำหอม

Marc Jacobs.jpg

Polo Ralph Lauren คิดค้นโดย Ralph Lauren เป็นนักออกแบบเสื้อผ้าชาวอเมริกันที่โด่งดังที่สุดของโลกคนหนึ่ง วิธีการออกแบบของเขาว่ามันไม่ใช่การออกแบบเสื้อผ้าเพื่อให้นำเทรนด์แฟชั่น แต่มันคืองานออกแบบเสื้อที่ช่วยเติมเต็มความฝันของคนใส่ เช่น แบบเสื้อผ้าที่ใส่แล้วเหมือนพวกผู้ดีรวยมากชอบใช้ชีวิตอยู่ในปราสาทชนบท เป็นต้น

Michael Kors.jpg

Marc Jacobs คิดค้นโดย Marc Jacobs เป็นนักออกแบบแฟชั่นชาวอเมริกัน เขาเป็นผู้ออกแบบหัวให้กับ Marc Jacobs ซึ่งเป็นค่ายแฟชั่นของเขาและเคยเป็น Marc by Marc Jacobs ซึ่งเป็นสายการผลิตซึ่งผลิตออกมาประมาณ 15 ปีหลังจากหยุดฤดูใบไม้ร่วง / ฤดูหนาวปี 2558 จนถึงจุดหนึ่งมีร้านค้าปลีกกว่า 200 แห่งใน 80 ประเทศทั่วโลก

Polo Ralph Lauren.jpg
Calvin Klein.jpg

Tory Burch เป็นของ Tory Burch ลูกสาวของอดีตนักแสดงหญิงกับนักลงทุนที่ค่อนข้างมีฐานะ ศึกษาที่มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย หลังจากจบการศึกษาในปี 1988 ทอรี่ก็ได้ย้ายมาอยู่ที่นิวยอร์ก และตัดสินใจที่จะก้าวเข้าสู่การเป็นนักออกแบบแฟชั่น ทำแบรนด์ Tory ในปี 2004 ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแบรนด์ที่มีสไตล์แบบ Preppy Boho ซึ่งสามารถเข้าถึงคนได้หลายรุ่น ทั้งยังเรียบหรูและใช้ได้ง่าย

Kate Spade.jpg

Diane Von Furstenberg เป็นของ Diane Von Furstenberg ในปัจจุบัน บริษัทฯ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในมหานครนิวยอร์ก ได้ขยายไลน์ผลิตภัณฑ์จนครอบคลุมทั่วถึงเสื้อผ้าสำเร็จรูป ชุดว่ายน้ำ เครื่องประดับ รองเท้า กระเป๋า แว่นตา อัญมณี และพรม คอลเล็คชั่นสินค้าเหล่านี้มีจำหน่ายในกว่า 71 ประเทศ รวมถึงบูติกของ DVF ซึ่งมีอยู่ 32 สาขาทั่วโลก

Calvin Klein เป็นของ Calvin Klein ที่ก่อตั้งตอนปีค.ศ.1968 ชื่อย่อติดปากคือ CK สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่มิดทาวน์ในเขตแมนฮัตตัน, นิวยอร์ก Calvin Klein เกิดเมื่อ 19 พฤศจิกายน ปี1942 ในครอบครัวชาวยิว-ฮังกาเรียนที่ย้ายถิ่นฐานมาในย่านบรองซ์, นิวยอร์ก ในวัยเด็ก Klein ได้เป็นคนสนิทของ Baron de Gyunzburg ซึ่งนั่นเป็นจุดเริ่มต้นการเข้าวงการแฟชั่นโลกก็ว่าได้ในปี 1968 เพื่อนสมัยวัยเด็ก Barry Schwartz ร่วมกันจัดตั้งแบรนด์ Calvin Klein และเปิดร้านในโรงแรม New ที่ New York และในปีถัดมาก็ได้ขึ้นปกนิตยสารแฟชั่นระดับโลก Vogue จากนั้นCKก็เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย

Tory Burch.jpg

Kate Spade เป็นของ Katherine Noel Brosnahan และ Andy Spade สามีที่ร่วมก่อตั้ง kate spade ด้วยกันในปี 1993 แบรนด์นี้เกิดขึ้นหลังจากที่ Kate เรียนจบในปี 1985 และได้เดินทางสู่นิวยอร์กและคลุกคลีอยู่ในวงการแฟชั่นที่ช่วงนั้น Kate รู้สึกไม่ถูกใจกับแฟชั่นกระเป๋าในยุคนั้น เพราะมันสวยแต่รุงรัง สวยงามแต่ใช้งานได้ไม่เต็มที่ จึงเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบกระเป๋าในนามแบรนด์ kate spade กระเป๋าถือที่มีสไตล์แต่ก็ต้องใช้งานได้จริง

Diane Von Furstenberg.jpg
Betsey Johnson.jpg

Betsey Johnson เป็นของ Betsey Johnson ดีไซเนอร์ชาวอเมริกัน เกิดที่เมือง Wethersfield รัฐ Connecticut เป็นแบรนด์เสื้อผ้า เครื่องประดับ หมวก และผ้าพันคอแฟชัน สดใสน่ารัก ราคาจับต้องได้ ใส่ได้ตั้งแต่วัยรุ่น จนถึงวัยทำงาน

Tom Ford  เป็นของ Tom Ford ผู้มีภูมิลำเนา และช่วงวัยเยาว์อยู่ที่เมืองออสติน รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เมื่อเขาได้ก้าวเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น เขาจะได้พลัดถิ่นกำเนิดไปอยู่ที่เมืองนิวยอร์ก เข้าเรียนทางด้านประวัติศาสตร์ศิลปะ ณ มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก หลังจากสั่งสมประสบการณ์ด้านแฟชันอยู่หลายปี เขาได้เนรมิตแบรนด์ Tom Ford ขึ้นมาเป็นของตัวเองในปี 2004

Tom Ford.jpg
bottom of page