OMAN

มาทำความรู้จักประเทศโอมานกัน

ประเทศโอมานหรือเรียกชื่ออย่างเป็นทางการว่า ‘รัฐสุลต่าน’ เป็นหนึ่งในแถบตะวันออกกลาง มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันยาวนานกว่า 5,000 ปี

ภูมิประเทศ

พื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นทะเลทราย ร้อยละ 82 เทือกเขา ร้อยละ 15 และที่ราบชายฝั่งทะเล ร้อยละ 3

ภูมิอากาศ

หน้าร้อน เมษายน-ตุลาคม อากาศจะสูงถึง 31-47องศา

หน้าหนาว พฤศจิกายน-มีนาคม อุณหภูมิ ประมาณ 20-25 องศา

ยกเว้นทางใต้ของประเทศจะภูมิอากาศแบบมรสุม และมีฝนตกเป็นประจำระหว่าง พฤษภาคม-กันยายน

ศาสนา

ประชากรเกือบทั้งประเทศนับถือศาสนาอิสลาม ศาสนาฮินดูและคริสต์ส่วนน้อย

สกุลเงิน

เรียลโอมาน (Rial Omani =RO) และ Baiza (ไบซา) โดย 1,000 ไบซา = 1เรียล

อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ประมาณ 1 RO ~ 86 บาท

การเดินทาง

จากประเทศไทยให้นั่งเครื่องบินไปลงที่ ท่าอากาศยาน Muscat International Airport จากนั้นนั่งแท็กซี่เข้าตัวเมืองมัสกัต จากสนามบินถึงตัวเมือง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที ค่าโดยสารประมาณ 6-7 เรียลโอมาน การเดินทางในโอมาน เราแนะนำว่าให้เช่ารถขับหรือจ้างคนขับรถดีกว่า เพราะสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละที่ส่วนใหญ่จะอยู่ห่างกันหรืออยู่คนละเมือง นอกจากนี้ระบบขนส่งสาธารณะในโอมานก็ยังไม่ค่อยทั่วถึงนัก

การขอวีซ่า

สามารถทำวีซ่าได้แบบ Visa on Arrival ผ่านตู้อัตโนมัติที่สนามบินของโอมานได้เลยไม่ต้องใช้เอกสารหลักฐาน แค่เพียงใช้พาสปอร์ตและเงินค่าธรรมเนียมตามจำนวนวันที่ต้องการท่องเที่ยว สามารถพำนักได้ 30 วัน มีค่าธรรมเนียม 20 เรียลโอมาน

สถานที่ท่องเที่ยว

Bimmah Sinkhole

เป็นหลุมธรรมชาติขนาดใหญ่ตั้งอยู่ในสวน Hawiyak Najm Park มีขนาดความกว้างประมาณ 50 เมตร ความยาวประมาณ70 เมตรและมีความลึกประมาณ 20 เมตร เกิดจากการที่แผ่นดินทรุดจนทำให้เกิดหลุม สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งคือน้ำในหลุมแห่งนี้เป็นสีเขียวมรกต นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาสามารถลงไปเล่นน้ำได้

ทะเลทรายวาฮิบา

ตั้งอยู่ห่างจากเมืองมัสกัต ทะเลทรายวาฮิบาเป็นเนินทรายสีแดงน้ำผึ้งขนาดใหญ่กว้างถึง 100 กิโลเมตร และยาวถึง 200 กิโลเมตรเลยทีเดียว กิจกรรมหลักๆ เมื่อมาที่นี่ก็คือการนอนพักค้างคืนในแคมป์กลางทะเลทราย ขี่อูฐ นั่งรถจี๊ปตะลุยเนินทราย หรือลองใช้ชีวิตแบบชาวเบดูอิน พอตกกลางคืนก็นอนชมดาว ความสงบเงียบและปราศจากแสงไฟรบกวนทำให้ทะเลทรายวาฮิบาเป็นจุดชมดาวที่สวยงามมากๆ

โอเอซิสวาดิหรือวาดิชาบ

เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตอีกที่หนึ่งของโอมาน โดยจะประกอบไปด้วย หน้าผา โขดหิน ต้นปาล์ม นกหัวขวาน สระน้ำต่างๆ และน้ำตกในถ้ำ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติและชอบการผจญภัย ไฮไลท์ของที่นี่อยู่ที่การเข้าไปยังตัวน้ำตกในถ้ำ จะต้องเดินเท้าเข้าไปใช้เวลประมาณครึ่งชั่วโมงจากนั้นต้องว่ายน้ำผ่านหลุมระหว่างเขา แต่หากเป็นช่วงเวลาที่น้ำขึ้นก็จะต้องใช้วิธีดำน้ำเข้าไป

บาห์ลา ฟอร์ท (Bahla Fort)

เป็นหนึ่งในป้อมปราการที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดของประเทศโอมาน โดยถูกขึ้นสร้างเมื่อ 500 ปีก่อนคริสตกาล และเป็นป้อมหนึ่งเดียวที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกในปี 1987 กำแพงป้อมแห่งนี้มีความยาวถึง 12 กิโลเมตร ลักษณะภายนอกเป็นศิลปะแบบตะวันออกกลาง ก่อสร้างด้วยปูนและดินสีน้ำตาลอ่อน เข้ากับลักษณะภูมิประเทศแบบทะเลทราย นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นไปชมวิวเมืองนิซวาจากด้านบนได้ นับได้ว่าเป็นป้อมที่ยิ่งใหญ่และเป็นที่ๆ

Sultan Qaboos Grand Mosque (มัสยิดสุลต่านกาบูส)

ได้รับการการันตีว่าเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในคาบสมุทรอาหรับ ภายนอกก่อสร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบมัสยิดอิสลาม มีลักษณะเป็นโดมตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมที่มั่นคง ยิ่งใหญ่ โอ่งโถง และสวยงาม โดยรอบปลูกต้นไม้ และดอกไม้ประดับอย่างรมรื่น ภายในโถงกลางมีพรมทอมือไร้รอยต่อ ลวดลายวิจิตรงดงามที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่สองของโลก

อาหารท้องถิ่น

Majboos

เรียกอีกอย่างว่า Kabsa และ Makboos, Majboos เป็นจานข้าวแบบดั้งเดิมที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศซาอุดิอารเบีย มีชื่อเสียงในโลกอาหรับโดยเฉพาะในประเทศอ่าวไทยรวมทั้งโอมาน จานประกอบด้วยข้าวมัก basmati ผักเนื้อหรือไก่และส่วนผสมของเครื่องเทศ บางครั้งเสิร์ฟพร้อมกับโยเกิร์ตหรือสลัดผักสดขนมปังแบบดั้งเดิมและซอสมะเขือเทศ

Shuwa

Shuwa หมายถึงเนื้อย่างในภาษาอาหรับ เป็นอาหารจานโปรดที่โอมานเตรียมไว้สำหรับโอกาสพิเศษเช่น Eid ขั้นตอนการทำอาหารจาน Shuwa ใช้เวลานาน ในความเป็นจริง Omanis มักจะเตรียมเนื้อในวันแรกของ Eid และกินมันในวันที่สองหรือสาม Shuwa หมักไว้ในเครื่องเทศโอมานจากนั้นห่อด้วยใบตองหรือใบปาล์มและใส่ในเตาอบทรายใต้ดินซึ่งจะสุกมากกว่าหนึ่งถึงสองวัน นี้อาจจะดูเหมือนเป็นวิธีที่แปลก แต่เนื้อ Shuwa เป็นหนึ่งในอาหาร tastiest รอบ

Meshkak

ยังเป็นที่รู้จักกันในชื่อเคบับ Meshkak คือเนื้อหมูเนื้อหมูหรือไก่ที่ย่างบนไม้ มักใช้หมักกับเครื่องแกงต่างๆโดยเฉพาะแกงและเสริฟกับขนมปังโอมาน นี่เป็นอีกจานพิเศษที่จัดทำขึ้นทั่วประเทศโดยเฉพาะในช่วงฉลองสิริราชสมบัติ

HOTLINE: +6684 522 2429
+6661 156 5453